จักรกลยอดมนุษย์เมทัลเดอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จักรกลยอดมนุษย์เมทัลเดอร์
ประเภทTokusatsu
Superhero fiction
Science fiction
สร้างโดยToei
พัฒนาโดยSusumu Takaku
กำกับโดยTakeshi Ogasawara
แสดงนำAkira Senō
Hiroko Aota
Kazuoki Takahashi
Hiroshi Kawai
Toshi Fufuchu
Hana Arashi
บรรยายโดยIssei Masamune
ผู้ประพันธ์เพลงSeiji Yokoyama
ประเทศแหล่งกำเนิดญี่ปุ่น
จำนวนตอน39
การผลิต
ความยาวตอน30 นาที (ต่อตอน)
ออกอากาศ
เครือข่ายTV Asahi
ออกอากาศ16 มีนาคม ค.ศ. 1987 (1987-03-16) –
17 มกราคม ค.ศ. 1988 (1988-01-17)

จักรกลยอดมนุษย์เมทัลเดอร์ (ญี่ปุ่น: 超人機メタルダーโรมาจิChōjinki Metarudā - ทับศัพท์จากคำว่า Metalder) เป็นภาพยนตร์โทคุซัทสึแนวเมทัลฮีโรลำดับที่ 6 ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1987 ถึงวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1988 โดยออกอากาศทุกวันจันทร์เวลา 19.00 ถึง 19.30 น. และย้ายวันและเวลาเป็นทุกวันอาทิตย์เวลา 9.30 ถึง 10.00 นทางสถานีโทรทัศน์อาซาฮีรวมทั้งสิ้น 39 ตอนและมีตอนพิเศษทางภาพยนตร์อีก 1 ตอน

เนื้อเรื่อง[แก้]

ปี ค.ศ. 1945 ดร.โคงะ ริวอิจิโร่ ได้พัฒนาหุ่นยนต์แอนดรอยด์เพือให้กองทัพของจักรวรรดิญี่ปุ่นเอาไปใช้ในสงครามแปซิฟิก โดยออกแบบตามแบบของลูกชายที่เสียชีวิตไปแล้ว โคงะ ทัตสึโอะ แต่ทว่าหลังจากพัฒนาเสร็จ ดร. โคงะ กลับซ่อนหุ่นยนต์ไว้ในฐานทัพลับแทนที่จะมอบให้กองทัพเพราะอยากสร้างสันติภาพให้กับโลก จากนั้นดร.โคงะจึงออกจากญี่ปุ่นไปทำงานที่นาซ่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงหลายสิบปี มุรากิ อดีตเพื่อนร่วมงานของดร.โคงะ ผู้มีจิตใจชั่วร้ายและมีความทะยานอยากที่จะครองโลกสร้างกองทัพจักรวรรดิเนรอสขึ้น เผอิญดร.โคงะล่วงรู้ความลับของจักรวรรดิเนรอส เข้าจึงถูกจักรวรรดิเนรอสไล่ล่า ดร.โคงะจึงเดินทางกลับมาที่ญี่ปุ่นเพื่อที่จะปลุกหุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่เค้าพัฒนาขึ้นเมื่อช่วงยุคปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากที่หุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่ดร.โคงะให้ชื่อไว้ว่า สึรุงิ ริวเซย์ ตื่นขึ้นมา เค้ากลับไมสามารถตอบสนองต่อคำสั่งของดร.โคงะได้เพราะ ริวเซย์ จะตอบสนองต่อเป้าหมายที่ถูกโปรแกรมไว้เท่าน้น ดร.โคงะ จึงสละชีวิตตัวเองด้วยการให้ ทหารกองทัพของจักรวรรดิ์เนรอสฆ่า เมื่อริวเซย์เห็นดร.โคงะผู้สร้างตนถูกฆ่าโปรแกรมที่ถูกตั้งไว้จึงเริ่มทำงาน และเมื่อความโกรธของริวเซย์ถึงขีดสุด เค้าจะแปลงร่างเป็น เมทัลเดอร์

ตัวละคร[แก้]

เมทัลเดอร์ / ซึรุกิ ริวเซย์ (剣 流星)
หุ่นแอนดรอยด์ที่เรียกว่า "โชจินกิ" (超人機) เป็นหุ่นยนต์รูปแบบมนุษย์ทรงพลังอันเป็นผลมาจาก เครื่องสร้างพลังงาน Super Gravitational Energy เรียกว่า "โคกะ X" (KOGA-X) ที่ดอกเตอร์ "โคกะ ริวอิจิโร่" สร้างขึ้นในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 จุดประสงค์ดั้งเดิมนั้นสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการรบกับกองทัพอเมริกาโดยดอกเตอร์โคกะได้ซ่อนเอาไว้ในฐานทัพลับของกองทัพพระจักรพรรดิ์แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่นก็ถูกเก็บซ่อนเอาไว้เช่นนั้นและตัวดอกเตอร์ก็เดินทางไปอาศัยอยู่ที่อเมริกาจนเมื่อกองทัพเนรอสเริ่มเคลื่อนไหว ดอกเตอร์โคกะจึงเดินทางกลับมายังญี่ปุ่นเพื่อปลุกการทำงานของโชจินกิขึ้นมาอีกครั้งเพื่อรับมือกับพวกเนรอส เมทัลเดอร์นั้นมีร่างมนุษย์ที่ลอกเลียนมาจากลูกชายของดอกเตอร์โคกะซึ่งเป็นทหารในหน่วยรบ "คามิกาเซ่" ที่ชื่อ "โคกะ ทัตสึโอะ" และยังใส่ข้อมูลความทรงจำและบุคลิกของทัตซึโอะเอาไว้ด้วยทำให้ตัวเมทัลเดอร์หรือในชื่อมนุษย์ที่ดอกเตอร์มอบให้คือ "ซึรุกิ ริวเซย์" มีความรักในเสียงดนตรีและสามารถเล่นแซกโซโฟนได้ ดอกเตอร์โคกะนั้นถูกตามล่าในระหว่างเดินทางไปปลุกเมทัลเดอร์และเพราะการโจมตีนั้นหนักหน่วงมากขึ้นจนดอกเตอร์ไม่มีเวลาที่จะบอกถึงจุดประสงค์ในการต่อสู้และเรื่องราวต่างๆแก่เมทัลเดอร์ได้ทันจึงได้ใช้วิธียอมให้ตัวเองถูกฆ่าเพื่อให้เมทัลเดอร์รู้จักความโกรธโดยความโกรธนั้นเป็นตัวเปิดระบบการแปลงร่างโดยเมทัลเดอร์ในร่างมนุษย์ของริวเซย์จะใช้คำพูดว่า "พิโรธ" (怒る!) เพื่อเปลี่ยนร่างเป็นโชจินกิ เมทัลเดอร์ที่มีร่างกายซีกซ้ายเป็นสีแดงซึ่งมีวงจรระบบความคิดและจิตใจแบบมนุษย์เพื่อให้สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว การมีจิตสำนึกของมนุษย์ที่ดีสามารถแยะแยะความผิดชอบชั่วดีได้และยังเป็นที่บรรจุความทรงจำของทัตซึโอะอีกด้วย ส่วนร่างกายซีกขวานั้นจะเป็นสีน้ำเงินซึ่งเป็นส่วนของสมองกลที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการต่อสู้ของศัตรูและความสามารถลอกเลียนความสามารถเพื่อพัฒนาความสามารถของตนเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ เมทัลเดอร์นั้นตามปกติจะใช้การต่อสู้ด้วยมือเปล่าเป็นหลักและมีท่าไม้ตายหลักคือ "เลเซอร์ อาร์ม" (レーザーアーム) แต่เมื่อผ่านการต่อสู้หลายครั้งเข้าก็เรียนรู้ที่จะใช้ท่าอื่นๆอาทิ "จี คิ๊ก" (Gキック) หรือ "เมทัลทอร์นาโด" (メタルトルネード) นอกจากนั้นก็มีเทคนิกการต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เช่น "หมัดพันมือ" หรือวิชาแยกร่างแบบนินจาด้วย ในการต่อสู้กับพวกเนรอสเมทัลเดอร์ก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตแบบมนุษย์ มีสหายร่วมต่อสู้กับพวกเนรอสเพิ่มมากขึ้นทั้งที่เป็นมนุษย์และพวกเนรอสที่กลับใจมาช่วยเหลือเมทัลเดอร์ อาทิ ทอปกันเดอร์ ,เบ็น K หรือเฮดกรอสจูเนียร์ ทำให้การต่อสู้กับเนรอสเสมือนเป็นการต่อสู้กันระหว่างเมทัลเดอร์ที่เป็นเครื่องจักรแต่มีจิตใจของมนุษย์กับก๊อดเนรอสที่แต่เดิมเป็นมนุษย์แต่กลับทิ้งความเป็นมนุษย์เพื่อให้ตนเองกลายเป็นพระเจ้า การต่อสู้ที่มีทั้งความสุขและโศกนาฎกรรมดำเนินไปจนถึงขั้นแตกหักเมื่อต่างฝ่ายต่างก็พบกับความสูญเสีย การตัดสินครั้งสุดท้ายระหว่างเมทัลเดอร์กับก๊อดเนรอสดำเนินไปอย่างดุเดือดแม้ว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของเมทัลเดอร์ที่ปราบก๊อดเนรอสได้ด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" แต่เมทัลเดอร์ก็ได้รับความเสียหายที่อุปกรณ์สร้างพลังงานโคกะ X จากการโจมตีของก๊อดเนรอสทำให้เซลล์พลังงานเสียหายหากปล่อยเอาไว้จนโอเวอร์ฮีทจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงจนอาจทำให้โลกพินาศ เมทัลเดอร์จึงขอให้ฮัคโคใช้ดาบของคูลกินทำลายเครื่องสร้างพลังงานโคกะ X ก่อนที่มันจะระเบิด ฮัคโคจำใจต้องใช้ดาบของคูลกินแทงเข้าไปที่เซลล์พลังงานที่เสียหายทั้งน้ำตาเพราะเขาจำต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยของโลกทั้งใบกับสหายรักเพราะหากสูญเสียพลังนี้เมทัลเดอร์จะไม่อาจกลับไปอยู่ในร่างมนุษย์ของริวเซย์ได้อีก และท่ามกลางแสงสว่างที่ระเบิดออกมาฮัคโคและไมก็ต้องมองดูเมทัลเดอร์เดินจากไปด้วยความโศกเศร้าในร่างของแอนดรอยด์แต่กระนั้นเมทัลเดอร์ก็สัญญาว่าเขาจะกลับมาเมื่อมีคนต้องการเขาอย่างแน่นอน
ข้อมูล
  • สูง = 190 ซม.
  • หนัก = 250 กก.
  • พลังกระโดด = 105 เมตร
  • ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 1.5 วินาที
  • ท่าไม้ตาย = เลเซอร์อาร์ม (レーザーアーム), กราวิตี้คิก (Gキック), เมทัลทอร์นาโด (メタルトルネード), เฮดคลัช (ヘッドクラッシュ), พลาสม่า พั๊นซ์ (プラズマパンチ), เมทัลบอมเบอร์ (メタルボンバー), หมัด 1000 มือ

ผู้ช่วยและผู้เกี่ยวข้อง[แก้]

สปริงเกอร์ (スプリンガー)
หุ่นยนต์ไซบอร์กสุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมนทำหน้าที่ซ่อมแซมเมทัลเดอร์สามารถพูดได้โดยปกติจะอยู่ที่ซิลเวอร์คาร์แคส ถูกสร้างขึ้นมาก่อนเมทัลเดอร์จึงมีศักดิ์เป็นพี่ชายคอยสอนเรื่องต่างๆเกี่ยวกับสังคมของมนุษย์ให้กับเมทัลเดอร์ มีความฉลาดพูดภาษามนุษย์ได้และสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆในฐานทัพได้อย่างคล่องแคล่ว สปริงเกอร์ชอบดูรายการโทรทัศน์มากโดยเฉพาะรายการการ์ตูน ในตอนสุดท้ายเนื่องจากไม่สามารถซ่อมแซมเมทัลเดอร์ได้เพราะสูญเสียฐานทัพไปจึงติดตามเมทัลเดอร์ที่ไม่อาจกลับร่างเป็นมนุษย์ได้และจากไปอย่างเงียบๆพร้อมกับเมทัลเดอร์
โอกิ ไม (仰木 舞)
เพื่อนที่เป็นมนุษย์คนแรกของริวเซย์เป็นช่างภาพหญิงจอมแก่นทำงานให้กับนิตยาสาร "Weekly Up" ที่บังเอิญได้รับความช่วยเหลือจากเมทัลเดอร์ เป็นผู้ที่คอยสอนเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของมนุษย์และการอยู่ในสังคมปัจจุบันแก่เมทัลเดอร์และเป็นสหายที่คอยช่วยเหลือเมทัลเดอร์มาอย่างยาวนาน จนในที่สุดเธอและฮัคโคก็ต้องมองดูเมทัลเดอร์จากไปโดยไม่อาจจะช่วยอะไรได้
คิตะ ฮัคโค (高橋 和興)
อดีตนักแข่งโมโตครอสซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของไม ปรากฏตัวในตอนที่ 16 เคยเป็นคู่ปรับของริวเซย์ครั้งหนึ่งเพราะเข้าใจว่าริวเซย์นั้นตามจีบไม แต่เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากเมทัลเดอร์และรับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็กลายเป็นสหายรักร่วมต่อสู้กับพวกเนรอสไปอีกคนโดยเรียกตัวเองว่า "เนรอส ฮันเตอร์" แม้จะช่วยอะไรไม่ได้มากก็ตาม มีเพื่อนสนิทที่อยู่กลุ่มเชียร์แจ็คเดนเงคิ (ジャック電撃応援団) ในตอนสุดท้ายเขาจำใจต้องใช้ดาบของคูลกินทำลายอุปกรณ์สร้างพลังงานของเมทัลเดอร์เพื่อไม้ให้เกิดการระเบิดที่จะทำลายโลกแต่ก็ต้องสูญเสียเพื่อนที่ไม่อาจหาใครมาทดแทนได้และต้องมองดูเมทัลเดอร์จากไปเช่นเดียวกับไม
ดร.โคกะ ริวอิจิโร่ (古賀 竜一郎 博士)
นักวิทยาศาสตร์แห่ง NASA ซึ่งเคยรับผิดชอบโครงการสร้างหุ่นแอนดรอยด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กับกองทัพญี่ปุ่น เป็นพ่อของทัตสึโอะและเป็นผู้สร้างเมทัลเดอร์ขึ้นมา เสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพเนรอสในตอนที่ 1 โดยเขาไม่มีเวลาที่จะอธิบายเรื่องต่างๆแก่เมทัลเดอร์ได้ทันจึงทำได้เพียงสอนให้เมทัลเดอร์รู้จักความโกรธเพื่อให้ร่างมนุษย์ของซึรุกิแปลงร่างเป็นเมทัลเดอร์ได้โดยยอมให้พวกเนรอสฆ่าตาย
โคกะ ทัตสึโอะ (古賀 竜夫)
ลูกชายของดร.โคกะเสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความสามารถทางด้านดนตรีสูงหากไม่มีสงครามเขาคงได้เป็นนักดนตรีมืออาชีพได้ไม่ยาก เครื่องดนตรีที่ถนัดคือแซกโซโฟนและไวโอลิน ร่างมนุษย์ของริวเซย์ที่ดร.โคกะมอบให้กับเมทัลเดอร์นั้นใช้รูปลักษณ์ของทัตซึโอะเป็นพื้นฐานรวมทั้งยังใส่ข้อมูลความทรงจำของทัตซึโอะเอาไว้หน่วยความจำของเมทัลเดอร์อีกด้วยทำให้เมทัลเดอร์มีความรักในเสียงดนตรีและสามารถเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิดได้เช่นเดียวกับทัตซึโอะ
โอกิ ชินโง (仰木 信吾)
พ่อของไมซึ่งอาศัยอยู่ที่วอชิงตันในฐานะผู้สื่อข่าวต่างประเทศปรากฏตัวในตอนที่ 34 โดยได้รับการขอร้องจากไมเพื่อให้ช่วยสืบประวัติและข้อมูลของดอกเตอร์โคกะเพื่อตามหาร่องรอยของก๊อดเนรอส และในตอนที่ 35 ถูกลักพาตัวเข้าไปยังโกสต์แบงค์ ฐานทัพใหญ่ของกองทัพเนรอสและได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของก๊อดเนรอสแต่ถูกล้างสมองแล้วจับใส่เสื้อเกราะของแท็กสกี้เพื่อให้ไปสู้กับเมทัลเดอร์แต่เคราะห์ดีถูกช่วยเหลือเอาไว้ได้และได้บอกสิ่งที่รู้มากับพวกเมทัลเดอร์
ท๊อปกันเดอร์ (暴魂トップガンダー)
อดีตนักรบยศวิญญาณร้ายกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ของเนรอสซึ่งแสดงผลงานในการสังหารบุคคลระดับ VIP มาแล้วทั่วโลก เป็นหุ่นยนต์รบในชุดรัดรูปสีดำและมีดวงตาสีแดง 1 ข้างผู้ใช้ปืนยาวเป็นอาวุธชื่นชอบต่อสู้อย่างยุติธรรมและขาวสะอาดเพราะได้รับการโปรแกรมบุคลิคเลียนแบบ "กอลโก 13" มักทำงานแบบฉายเดี่ยวเสมอเพราะในอดีตเขาเคยถูกเพื่อนในกองทัพหุ่นยนต์นักสู้หักหลัง โดยหลังจากรับคำสั่งลอบสังหารศัตรูของก๊อดเนรอสแล้วเมื่อกลับมาถึงเกทเขากลับถูกเพื่อนจ่อปืนใส่หวังจะแย่งผลงานไปเป็นของตนแต่ท๊อปกันเดอร์ก็รอดมาได้และจัดการเพื่อนทรยศนั้นไปทำให้เขาไม่ไว้ใจใครอีกนอกจากตัวเอง ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ 4 โดยเป็นนักรบตัวแทนของกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ให้ร่วมออกปฏิบัติการกันทั้ง 4 กองทัพ ได้แก่ "จูโบ" จากกองทัพเสื้อเกราะ "กามาด้อน" จากกองทัพมอนสเตอร์ และ "อากุมิส" จากกองทัพเกราะยนต์ โดยให้ทั้ง 4 ออกไปจัดการกับเมทัลเดอร์พร้อมกันแต่ท๊อปกันเดอร์ที่เห็นว่ามันไม่ใช่การต่อสู้ที่ยุติธรรมจึงไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ ในตอนที่ 5 สามารถเอาชนะบังโคร่าในการประลองจนได้สิทธิ์ในการออกปฏิบัติการสังหารเมทัลเดอร์และมีความตั้งใจจะต่อสู้กับเมทัลเดอร์แบบตัวต่อตัว ในครั้งแรกเกือบจะเอาชนะเมทัลเดอร์ในการประลองหยิบปืนแบบเดียวกับบังโคร่าโดยท๊อปกันเดอร์คว้าปืนได้ก่อนเพียงเสี้ยววินาทีและจ่อปากกระบอกปืนใส่เมทัลเดอร์ได้อยู่แล้วแต่เพราะซาเค็มโบกับดัมเน็นมาคอยซุ่มโจมตีแต่ถูกท๊อปกันเดอร์เห็นเข้าก่อนจึงหันไปยิงใส่สองตัวนั้นแทน ท๊อปกันเดอร์ที่รู้สึกว่าถูกขัดจังหวะจึงนัดให้เมทัลเดอร์มาประลองกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ในการต่อสู้ครั้งที่ 2 ได้ดวลมอเตอร์ไซด์กับไซด์แฟนท่อมของเมทัลเดอร์อย่างดุเดือดจนเมทัลเดอร์ได้โอกาสประชิดตัวและใช้ดาบสั้นของทัตซึโอะปักเข้าที่ไหล่ขวาจนท๊อปกันเดอร์เสียท่าปืนหลุดมือแต่สุดท้ายเมทัลเดอร์ก็ปล่อยท๊อปกันเดอร์ไปโดยบอกว่าให้ไปรักษาตัวและกลับมาสู้กันใหม่ ทำให้ท๊อปกันเดอร์ได้รับรู้ถึงตัวตนของเมทัลเดอร์และยอมรับในฐานะนักสู้ที่มีศักดิ์ศรี ในตอนที่ 6 เขาขัดขืนการลงทัณฑ์เพื่อจะไปต่อสู้ตัดสินกับเมทัลเดอร์แบบยุติธรรมอีกครั้งโดยระหว่างการประหารได้ฉวยโอกาสจับเกลดริงเป็นตัวประกันและหลบหนีการจับกุมไปได้จึงถูกพวกเนรอสไล่ล่าในฐานะคนทรยศจนได้รับความเสียหายแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือและซ่อมแซมจากเมทัลเดอร์จึงกลายเป็นเพื่อนของเมทัลเดอร์ไปในที่สุด แต่ในช่วงแรกเขาก็ยังไม่ทรยศกองทัพเนรอสซะทีเดียวโดยยังไม่เผยข้อมูลความลับใดๆของก๊อดเนรอสแก่เมทัลเดอร์เพียงแต่ใบ้ให้ว่าให้ลองสืบตามรอยประวัติของดอกเตอร์โคกะดู แต่เขาก็สัญญาว่าจะไม่เผยความลับเกี่ยวกับฐานทัพลับของเมทัลเดอร์แก่กองทัพเนรอสเช่นกัน ก่อนจะหายหน้าไประยะนึงและกลับมาช่วยเมทัลเดอร์จากการลอบสังหารของครอสรันเดอร์ในตอนที่ 16 และในตอนที่ 17 ก็ต่อสู้กับพวกครอสรันเดอร์อีกครั้งโดยในครั้งนี้หลังจากได้เห็นการต่อสู้อันสกปรกของครอสรันเดอร์เขาก็ตัดสินใจจะหันมาต่อสู้ร่วมกับเมทัลเดอร์อย่างเต็มตัวและคอยช่วยเหลือเมทัลเดอร์เรื่อยมา ในตอนที่ 33 ท๊อปกันเดอร์พลาดท่าถูกซุ่มเล่นงานโดยพวกเนรอสจนถูกจับตัวไปแล้วใช้หุ่นตัวปลอมของท๊อปกันเดอร์หวังลอบสังหารเมทัลเดอร์แต่ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดและสามารถกำจัดครอสรันเดอร์ลงจนได้ นอกจากทักษะแม่นปืนแล้วท็อปกันเดอร์ยังมีแขนซ้ายที่ทรงพลังเป็นอาวุธเสริมโดยสามารถต่อยทะลวงร่างของศัตรูและเหวี่ยงทิ้งได้เป็นระยะหลายสิบเมตรด้วยแขนซ้ายเพียงข้างเดียวจนใช้วิธีนี้จัดการก็อบลิทและเดเดมอสได้พร้อมกันในตอนที่ 35 ในตอนที่ 37 ร่วมบุกเข้าโกสต์แบงค์จนจัดการกับจูโบลงได้และพากันหนีออกมาจากโกสต์แบงค์ที่กำลังจะระเบิดทำลายตัวเอง จากนั้นก็ทำการต่อสู้กับกองทัพเกราะยนต์ที่เหลือร่วมกับเมทัลเดอร์จนสามารถกำจัด "ดรังก้า" เกราะศักดิ์สิทธิ์แห่งกองทัพเกราะยนต์ลงได้แต่กลับถูกก๊อดเนรอสในร่างสวมเกราะของคูลกินจัดการด้วยดาบจนเสียหายอย่างหนักจนไม่อาจซ่อมแซมได้เพราะเมทัลเดอร์สูญเสียฐานทัพและอุปกรณ์ต่างๆไปหมด เมทัลเดอร์จึงต้องสูญเสียสหายศึกไปอีกอย่างไม่อาจหวนคืน

ยานพาหนะของเมทัลเดอร์[แก้]

ไซค์แฟนธอม

มอเตอร์ไซค์พ่วงสีฟ้าของเมทัลเดอร์สามารถบินไปบนท้องฟ้าได้และสามารถแยกส่วนพ่วงออกไปโจมตีได้ มักใช้ในการพุ่งเข้าชน

เมทัลซาร์เจอร์
รถยนต์รุ่น "มาสด้า แฟมิเลีย 6" สีแดงของเมทัลเดอร์สามารถกางส่วนประตูทั้งสองข้างออกมาเป็นปีกบินไปบนท้องฟ้าได้

จักรวรรดิ์เนรอส[แก้]

จักรพรรดิ์ ก๊อดเนรอส (帝王ゴッドネロス) / คิริฮาระ โกโซ (桐原剛造)
ผู้นำของจักรวรรดิ์เนรอส มีตัวตนบังหน้าเป็นประธานกลุ่มบริษัทในเครือคิริฮาระ (桐原コンツェルン) นาม "คิริฮาระ โกโซ" (桐原 剛造) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่คืออาคาร "ไฮเทควิว" (ハイテクビル) ซึ่งตั้งอยู่ในชินจูกุซึ่งเบื้องหน้าทำการตลาดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและประดิษฐกรรมล้ำยุคแต่เบื้องหลังก็เกี่ยวข้องกับตลาดการค้าอาวุธเพื่อชักใยการก่อสงครามเพื่อการครองโลกโดยสามารถแปลงร่างและย้ายไปยังฐานทัพลับ "โกสต์แบงค์" (ゴーストバンク) ซึ่งอยู่ใต้ดินด้วยความมืดแห่งรัตติกาลในสภาพของไซบอร์ก ก๊อดเนรอส ซึ่งตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นคือ "มุรากิ คุนิโอะ" (村木 國夫) ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของดอกเตอร์โคกะในโครงการพัฒนาโชจินกิของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่คุนิโอะนั้นกลับแยกออกมาทำการทดลองของตัวเองกับมนุษย์โดยใช้เชลยสงครามเป็นหนูทดลองทำให้หลังจากสงครามสงบคุนิโอะก็ถูกตั้งข้อหาเป็นอาชญากรสงครามโดยมีดอกเตอร์โคกะเป็นโจทย์ทำให้คุนิโอะถูกจับขึ้นศาลทหารและถูกตัดสินประหารที่ประเทศสิงคโปร์ในเวลาต่อมา แต่ดอกเตอร์โคกะก็สงสัยมาตลอดว่าคุนิโอะอาจจะยังไม่ตายซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นโดยคุนิโอะรอดมาได้โดยติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่เรือนจำในสิงคโปร์และจัดฉากการตายหลอกๆขึ้นมา จากนั้นเขาก็เข้าร่วมกับองค์กรอาชญากรรมของอเมริกาและทำการสังหารหัวหน้าขององค์กรเพื่อยึดอำนาจและทรัพย์สินมาเป็นของตนเองและควบรวมกิจการผิดกฎหมายต่างๆพร้อมสร้างฐานอำนาจขึ้นมาเรื่อยๆพร้อมกันนั้นก็ทำการผ่าตัดแปลงโฉมด้วยศัลยกรรมพลาสติกเพื่อสร้างตัวตนของคิริฮาระ โกโซขึ้นมาบังหน้าและสร้างกลุ่มบริษัทในเครือคิริฮาระเพื่อรวบรวมและสร้างกองทัพของตนขึ้นมาด้วยความรู้ด้านวิทยาศาสตร์หลากแขนงทั้งวิศวกรรมหุ่นยนต์ ไบโอเทคโนโลยี และการพัฒนาอาวุธ รวมถึงการรวบรวมเหล่าผู้มีพรสวรรค์ด้านต่างๆมาดัดแปลงเป็นนักรบในกองทัพของตนเองอีกด้วย ก๊อดเนรอสนั้นสามารถปล่อยพลังงานจากลูกแก้วบนหัว ปล่อยสายเคเบิลจากบัลลังก์ที่นั่งอยู่ไปรัดและปล่อยกระแสไฟฟ้าช๊อตและปล่อยพลังทำลายต่างๆจากมือได้ ก๊อดเนรอสสลับตัวกับคูลกินในตอนที่ 37 และเป็นผู้สังหารท๊อปกันเดอร์ในศึกครั้งนั้น และในตอนที่ 38 ก็ทำการซ่อมแซมบัลสกี้เพื่อให้ไปสู้กับเมทัลเดอร์ ก่อนจะทำการตัดสินกับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 39 โดยใช้มนต์ดำเรียกเหล่าวิญญาณในรูปหน้ากากของนักรบในกองทัพเสื้อเกราะเข้าโจมตีเมทัลเดอร์ และในการเผชิญหน้ากับเมทัลเดอร์ ก๊อดเนรอสก็ใช้รยางค์เคเบิลทำลายเครื่อง "โคกะ X" ตรงเข็มขัดของเมทัลเดอร์เพื่อให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงพอจะทำลายโลกได้เพื่อยื่นข้อเสนอให้เมทัลเดอร์ยอมจำนนและสวามิภักดิ์รับใช้แต่เมทัลเดอร์ไม่ยอมและสังหารก๊อดเนรอสโดยบั่นศีรษะด้วย "เลเซอร์ อาร์ม"
เลขานุการผู้งดงาม K และ S (美人秘書K, S)
ในยามปกติจะทำหน้าที่เลขาของคิริฮาระตอนอยู่ที่บริษัทแต่เมื่อคิริฮาระแปลงเป็นก๊อดเนรอส ทั้งสองก็จะเปลี่ยนชุดทำหน้าที่เป็นสปายให้กับกองทัพเนรอสโดยเลขาฯ K จะใส่ชุดสีเขียวส่วนเลขาฯ S จะใส่ชุดดำ ออกปฏิบัติการอย่างดุดันและโหดเหี้ยมไม่ต่างจากผู้เป็นนาย มีกระบี่กับแส้เป็นอาวุธ ในตอนที่ 37 ระหว่างที่กำลังช่วยคูลกินที่สลับตัวเป็นก๊อดเนรอสเพื่อหนีออกจากการถูกรัดด้วยรยางค์เคเบิลในขณะที่กำลังจะระเบิดทำลายฐานทัพโกสต์แบงค์ ทั้งสองกลับคิดหนีเอาตัวรอดจึงถูกคูลกินในร่างของก๊อดเนรอสปล่อยสายเคเบิลไปรัดทั้งสองไว้เพราะการที่ทั้งสองมีทุกอย่างในตอนนี้ก็เพราะบารมีของกองทัพเนรอส คูลกินจึงไม่ยอมปล่อยให้ทั้งสองหนีไปได้และคาดว่าเสียชีวิตไปพร้อมกับการระเบิดของโกสต์แบงค์
กองทัพทั้ง 4 แห่งจักรวรรดิเนรอส (ネロス帝国軍4軍団)
กองทหารที่ก๊อดเนรอสรวบรวมและสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อใช้เป็นกองกำลังในการยึดครองโลกและตั้งตนขึ้นเป็นพระเจ้า โดยมีกองบัญชาการเรียกว่า "โกสต์แบงค์" (ゴーストバンク) ซึ่งอยู่ใต้ดินของอาคารสำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัทในเครือคิริฮาระ ในฐานนี้ประกอบด้วยบัลลังก์ของก๊อดเนรอสที่เมื่อปรากฏตัวมาแล้ว เหล่าสมุนทั้ง 4 กองทัพก็จะแห่กันออกมาจากประตูทางเข้าซึ่งทำหน้าที่เป็นลิฟท์ขนส่งไปสู่ภายนอกได้ซึ่งจะเรียกว่า "เกท" โดยโกสต์แบงค์จะทำหน้าที่เป็นทั้งห้องประชุมวางแผนและยังใช้เป็นสนามประลองระหว่างนักรบของทั้ง 4 กองทัพในกรณีที่จะตัดสินว่านักรบของกองทัพไหนเหมาะสมที่จะออกปฏิบัติการมากกว่ากัน กองทัพทั้ง 4 ประกอบด้วย "กองทัพเสื้อเกราะ" (ヨロイ軍団), "กองทัพหุ่นยนต์นักสู้" (戦闘ロボット軍団), "กองทัพมอนสเตอร์" (モンスター軍団) และ "กองทัพเกราะยนต์" (機甲軍団) โดยนักรบในแต่ละกองทัพนั้นจะมียศต่างๆ โดยมีอยู่ถึง 10 ยศด้วยกันคือ
  • ไกเซย์ (凱聖) หรือ เกราะศักดิ์สิทธิ์
  • โกโช (豪将) หรือ ขุนพลหาญกล้า
  • โบคน (暴魂) หรือ วิญญาณร้าย
  • ยูโท (雄闘) หรือ นักสู้วีรบุรุษ
  • บาคุโทชิ (爆闘士) หรือ นักสู้ระเบิด
  • เกคิโทชิ (激闘士) หรือ นักสู้เกรี้ยวกราด
  • เรทโทชิ (烈闘士) หรือ นักสู้โหดเหี้ยม
  • เคียวโทชิ (強闘士) หรือ นักสู้ระดับสูง
  • ชูโทชิ (中闘士) หรือ นักสู้ระดับกลาง
  • เคย์โทชิ (軽闘士) หรือ นักสู้ระดับล่าง
  • เคย์โทชิคาเงะ (軽闘士影) เป็นทหารลิ่วล้อในรูปแบบของนินจาที่ตามปกติแล้วสามารถเรียกใช้ร่วมกันได้ทุกกองทัพแต่มักติดตามรับใช้นักรบของกองทัพเสื้อเกราะมากกว่า
หมายเหตุ: ยศตั้งแต่ "เกคิโทชิ" ลงมาจนถึง "เคย์โทชิ" เป็นการอ้างอิงความรุนแรงของการเกิดแผ่นดินไหวตั้งแต่หนักจนถึงเบา แต่ในความเป็นจริงแล้วนอกจากตำแหน่ง "ไกเซย์" หรือเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหัวหน้าของแต่ละกองทัพแล้ว ที่เหลือก็ไม่ค่อยจะมีความหมายนัยสำคัญอะไรมากนักเพราะในการออกปฏิบัติงานแล้วก๊อดเนรอสจะเป็นผู้เลือกให้ออกปฏิบัติการ ไม่ก็ตำแหน่งเกราะศักดิ์สิทธิ์จะออกคำสั่งหรือมาจากการประลองเท่านั้นไม่ได้มีการไล่เลียงยศเป็นลำดับสายการบังคับบัญชาของกองทัพอย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

กองทัพเสื้อเกราะ[แก้]

กองทัพเสื้อเกราะ (ヨロイ軍団) เป็นกองทัพที่ใช้ชุดเกราะและอาวุธโบราณรูปแบบต่างๆในการต่อสู้เป็นหลัก โดยผู้ใช้เป็นมนุษย์ที่มีทักษะการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆหรือถูกดัดแปลงเป็นไซบอร์กแล้วใช้อาวุธหรืออุปกรณ์พิเศษเสริมความแข็งแกร่ง มีสมาชิกไล่ตามยศดังนี้

  • เกราะศักดิ์สิทธิ์ คูลกิน (凱聖クールギン)
หัวหน้าของกองทัพเสื้อเกราะ มีลักษณะเด่นคือสวมชุดเกราะและหน้ากากสีเงินสวมผ้าคลุมยาวเป็นริ้ว 2 ริ้ว มีดาบยาวเป็นอาวุธ เขาเป็นนักดาบฝีมือเยี่ยมเชี่ยวชาญการวางกลยุทธเพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญยุทธวิธีทางการทหารชั้นยอด นอกจากจะบัญชาการกองทัพเสื้อเกราะแล้วยังเป็นเสมือนมือขวาของก๊อดเนรอสจนถูกขนานนามว่าเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพเนรอสทั้งหมดอีกด้วย ในตอนแรกเขามีมอเตอร์ไซด์ชื่อ "แคปตรอน" (キャプトロン) เป็นพาหนะแต่แคปตรอนก็ถูกใช้โดยเกลดริงและกองทัพมอนสเตอร์ในภายหลัง จากนั้นเขาก็ใช้มอเตอร์ไซด์พ่วงชื่อ "มิราจ แฮชเชอร์" (ミラージュハシャ) เป็นพาหนะทั้งขับเองหรือให้สมุนขับก็ได้ เขาตระหนักได้ถึงความกลัวของก๊อดเนรอสที่มีต่อเมทัลเดอร์เขาจึงออกไปจัดการเมทัลเดอร์ที่เพิ่งแปลงร่างเป็นครั้งแรกและสามารถปราบเมทัลเดอร์ลงได้ในดาบเดียวทำให้เมทัลเดอร์พลัดตกเขาแต่ก็ยังไม่ถูกทำลาย ในตอนที่ 26 คูลกินได้เผชิญหน้ากับเมทัลเดอร์อีกครั้งโดยวางแผนใช้เหยื่อล่อให้เมทัลเดอร์กับพวกเข้ามาติดกับในวงซุ่มแต่ในครั้งนี้กลับเสียท่าถูกผ่าหน้ากากด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" จนหน้ากากแตกเผยให้เห็นว่ายังมีหน้ากากอีกอันซ่อนอยู่ภายในและคูลกินก็ล่าถอยไป ในตอนที่ 34 คูลกินได้ต่อสู้กับเมทัลเดอร์อีกครั้งโดยครั้งนี้เมทัลเดอร์ผ่าหน้ากากทั้งสองชั้นออกจนได้เห็นว่าภายใต้หน้ากากนั้นคือใบหน้าของ "คิริฮาระ โกโซ" ที่จริงแล้วคูลกินยังมีหน้าที่อีกอย่างก็คือเป็นนักรบเงาหรือตัวตายตัวแทนให้แก่ก๊อดเนรอส ทั้งในสภาพของคิริฮาระ โกโซจึงต้องศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือนกันรวมถึงเป็นตัวแทนในฐานะของก๊อดเนรอสด้วย ฉะนั้นในตอนที่ 37 เขาได้สลับตัวกับก๊อดเนรอสตัวจริงโดยให้ก๊อดเนรอสสวมเกราะของคูลกินออกไปรอซุ่มโจมตีพวกเมทัลเดอร์ที่ทางออกจากโกสต์แบงค์ร่วมกับดรังก้าและพวกกองทัพเกราะยนต์ส่วนตัวเขาก็แปลงเป็นก๊อดเนรอสเข้าต่อสู้กับเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ที่บุกเข้ามายังโกสต์แบงค์และใช้รยางค์เคเบิลรัดพวกเมทัลเดอร์ไว้และกดสวิตช์ระเบิดทำลายตัวเองของโกสต์แบงค์เพื่อทำการระเบิดพลีชีพไปพร้อมกับพวกเมทัลเดอร์แต่เมทัลเดอร์ก็เอาตัวรอดไปได้และหนีออกจากโกสต์แบงค์มาทางลิฟท์ขนส่ง ขณะที่คูลกินในร่างของก๊อดเนรอสกลับเสียท่าถูกสายเคเบิลรัดจนขยับไม่ได้และก่อนที่โกสต์แบงค์จะระเบิดก็ใช้สายเคเบิลเข้ารัดเลขาฯ K และ S ที่พยายามจะหนีเอาตัวรอด คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปพร้อมกับการระเบิดของโกสต์แบงค์นั่นเอง
  • ขุนพลหาญกล้า แท็กสกี้ (豪将タグスキー) และ ขุนพลหาญกล้า แท็กสลอน (豪将タグスロン)
รองหัวหน้ากองทัพเสื้อเกราะประดับยศขุนพลหาญกล้าทั้งสองคน หรือเรียกว่า "พี่น้องแท็กส" ก็ได้โดยแท็กสกี้ในชุดเกราะสีแดงทองเป็นพี่ชายใช้ดาบเป็นอาวุธ ส่วนแท็กสลอนในชุดเกราะสีเขียวและดำเป็นน้องใช้ง้าวเป็นอาวุธ ทั้งสองนั้นเข้าขากันเป็นอย่างมากจึงมีท่าโจมตีประสานอันร้ายกาจโดยทำหน้าที่เพชรฆาตสังหารเหล่าผู้กระด้างกระเดื่องต่อจักรวรรดิ์เนรอส ต่อสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 7 พร้อมกันแต่ก็พลาดท่าถูกเมทัลเดอร์ล่อให้พลาดแทงกันเองแม้จะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังไม่ตายและล่าถอยกลับไปเพราะเมทัลเดอร์เห็นว่าทั้งสองเป็นมนุษย์และซึ้งในความรักของพี่น้องแม้ทั้งสองคนจะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมาจริงๆก็ตาม ทั้งสองปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อสู้กับเมทัลเดอร์ในภาพยนตร์ตอนพิเศษและถูกปราบลงด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" แต่คาดว่าน่าจะยังไม่ตายเพราะทั้งสองยังกลับมาปรากฏตัวให้เห็นในตอนที่ 23 ในการแข่งแรลลี่ของกองทัพเนรอสโดยแท็กสลอนเป็นไม้ที่สองต่อจากการาโด้อาศัยลูกบ้าวิ่งฝ่าดงกับระเบิดในด่านที่ 3 ไปได้อย่างหวาดเสียวและพยายามจะปีนหน้าผาในด่านสุดท้ายแต่ก็เข้าเส้นชัยไม่ทันจนได้ แท็กสลอนได้เข้าต่อสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 25 ร่วมกับพวกเคย์โทชิคาเงะจนทำให้ฮัคโคได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดแต่ก็ถูกสังหารด้วยท่า "เมทัล ทอร์เนโด" ส่วนแท็กสกี้ก็ออกมาล้างแค้นให้กับน้องชายในตอนที่ 26 แต่ระหว่างที่กำลังจะขัดขวางการพาฮัคโคไปโรงพยาบาลก็พลาดท่าถูกเมทัลเดอร์ทุ่มใส่ดงกับระเบิดจนเสียชีวิตไปซะเอง แม้จะตายไปแล้วแต่ในตอนที่ 36 เกราะของแท็กสกี้ถูกนำมาสวมให้กับชินโง พ่อของไมและถูกล้างสมองให้ไปสู้กับเมทัลเดอร์แต่ก็ถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย
  • วิญญาณร้าย จูโบ (暴魂チューボ)
นักรบสวมชุดเกราะซามูไรที่เชี่ยวชาญการใช้ดาบคาตานะและสามารถถอดจันทร์เสี้ยวบนหมวกเกราะเพื่อซัดเป็นอาวุธลับได้ อีกทั้งยังมีง้าวจันทร์เสี้ยวสองปลายเป็นอาวุธเสริมอีกชิ้นด้วย เขาเป็นผู้นำทีมไล่ล่าดอกเตอร์โคกะในตอนที่ 1 ประกอบด้วย "มุคิมุคิแมน" "ฟูฟูชู" "วอกเกอร์" "เกบารอส" และ "ซาเค็มโบ" ได้ต่อสู้กับเมทัลเดอร์เป็นคนแรก ก่อนจะได้ต่อสู้กันอีกครั้งในตอนที่ 19 โดยจูโบเผลอเปิดเกทค้างเอาไว้ระหว่างออกมาข้างนอกโกสต์แบงค์ทำให้เด็กน้อยหลงเข้าไปยังโกสต์แบงค์ทำให้เมทัลเดอร์กับท๊อปกันเดอร์ตามเข้าไปช่วยได้ในภายหลัง เพื่อเป็นการแก้ตัวเขาจึงสู้กับเมทัลเดอร์แต่ก็ถูกจัดการด้วย "เมทัล ทอร์เนโด" แต่จูโบก็ปรากฏตัวมาอีกครั้งในตอนที่ 33 พร้อมกับนักรบบางส่วนที่ได้รับการฟื้นฟูสภาพและเพิ่มพลังความสามารถให้มากขึ้นได้แก่ การาโด้ แจมเน่ และจาส โดยไม่ชัดเจนว่าผู้สวมเกราะภายในเป็นคนเดียวกับในตอนที่ 19 หรือไม่ ในตอนที่ 37 เขาทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันคนสุดท้ายแก่ก๊อดเนรอสแต่ก็ถูกสังหารด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" ในตอนนี้เอง
  • วิญญาณร้าย ฮิโดแมน (暴魂ヒドーマン)
นักรบไซบอร์กที่ใช้ดาบโค้งที่เรียกว่า "ตะชิ" และตุ้มหนามที่ผูกโยงติดโซ่เป็นอาวุธ ในตอนที่ 13 ดำเนินแผนการขุดอุโมงค์ลับเพื่อลอบเข้าไปยังคลังเก็บทองคำของธนาคารแห่งชาติ บังเอิญว่าคนงานคนนึงเกิดมารู้ความลับเข้าจึงได้หลบหนี ฮิโดแมนจึงได้รับคำสั่งให้ออกตามล่าและทำการฆ่าปิดปาก โดยฮิโดแมนได้จับครอบครัวของคนงานคนนั้นเป็นตัวประกันเพื่อล่อเมทัลเดอร์มาติดกับจนเกือบจัดการกับเมทัลเดอร์ได้แล้วแต่เคราะห์ดีที่เมทัลเดอร์ได้รับความช่วยเหลือจาก "เบ็น K" ซึ่งกลับใจมาช่วยตัวประกันและสู้กับพวกเคย์โทชิคาเงะเพื่อปกป้องพวกตัวประกัน ทำให้เมทัลเดอร์สู้กับฮิโดแมนได้สะดวกโดยใช้วิชาแยกร่างซึ่งได้เลียนแบบมาจาก "การาโด้" จากการต่อสู้ก่อนหน้าเพื่อก่อกวนและเล่นงานฮิโดแมนจนอาวุธหลุดมือจนถูกสังหารด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" จนร่างถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยงเลยทีเดียว แม้จะได้รับชัยชนะแต่ เบ็น K ก็ต้องเสียชีวิตจากการพยายามปกป้องครอบครัวของตัวประกันอย่างกล้าหาญในสภาพยืนตาย
  • นักสู้วีรบุรุษ บาร็อค (雄闘バーロック)
อดีตนักกีฬาโอลิมปิกที่หันมาเป็นนักรบของกองทัพเนรอสในชุดรัดรูปสีเขียวที่ดูเหมือนชุดดำน้ำและสวมหน้ากากโลหะที่มีรูปลักษณ์เหมือนรูปปั้นกรีก มีเคียวติดโซ่ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าได้และกรงเล็บที่มือซ้ายเป็นอาวุธ ในตอนที่ 8 เขาได้ต่อสู้กับเฮดกรอสเพื่อแย่งสิทธิ์ในการออกปฏิบัติการและสามารถล้มเฮดรอสลงได้แต่เฮดกรอสซึ่งโกรธแค้นได้ใช้วิธีจับตัวประกันเพื่อบีบเมทัลเดอร์และชิงตัดหน้าบาร็อคเพื่อสร้างผลงานเสียเอง เขาก็เข้าช่วยเหลือตัวประกันออกมาเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อเมทัลเดอร์มาจัดการซะเองและในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์เขาเป็นฝ่ายแพ้แต่ไม่ถูกฆ่าเพราะเป็นมนุษย์แต่ตัวประกันก็ถูกกองทัพมอนสเตอร์ชิงตัวกลับไป จากนั้นเขาได้เล่าความหลังให้เมทัลเดอร์ฟังว่าแต่เดิมเขาเป็นนักกรีฑาที่เคยใช้วิธีสกปรกวางยาคู่แข่งเพื่อใส่ความว่าใช้สารกระตุ้นทำให้คู่แข่งคนนั้นถูกปลดเพื่อให้ตัวเองได้เป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งโอลิมปิกแต่ต่อมาเขาก็ทราบว่าคู่แข่งคนนั้นได้ฆ่าตัวตายเพราะความเสียใจ ด้วยความรู้สึกผิดเขาจึงปฏิญาณตนว่าจะสู้อย่างเปิดเผยและยุติธรรมเท่านั้นเขาจึงขอแก้ตัวด้วยการกลับไปช่วยตัวประกันกลับมาและต่อสู้ตัดสินกับเมทัลเดอร์อีกครั้งจนถูก "เลเซอร์ อาร์ม" ผ่าหน้ากากจนแตกเป็นเสี่ยงๆ บาร็อคยอมรับความพ่ายแพ้และยังเอาตัวเข้ารับกระสุนปืนใหญ่ที่ระดมยิงมาหวังสังหารเมทัลเดอร์ไปพร้อมกับตัวประกันจนเสียชีวิตไปอย่างหมดห่วงเพราะเขาต่อสู้อย่างสุดฝีมือกับคู่ต่อสู้ที่มีศักดิ์ศรีอย่างเมทัลเดอร์แม้ว่าจะพ่ายแพ้แต่ก็เป็นการต่อสู้อย่างยุติธรรมสมดั่งใจ
  • นักสู้วีรบุรุษ ว็อคเกอร์ (雄闘ウォッガー)
นักรบผู้เชี่ยวชาญการใช้หอกที่ประดับยศนักสู้วีรบุรุษ ในตอนที่ 14 ขณะกำลังควบคุมเหล่าทาสหญิงที่ถูกจับมาเป็นทาสของกองทัพเนรอส เขาก็สะดุดใจต่อใจสู้ของหนึ่งในทาสหญิงนาม "มาดอนน่า" และยังได้คำแนะนำจากคูลกินให้ใช้ประโยชน์จากทาสหญิงให้คุ้มค่าจึงวางแผนรับมาดอนน่ามาเป็นศิษย์และมอบยศนักสู้ระดับล่างฝึกหัดให้ โดยใช้เธอเป็นนกต่อไปสู้กับเมทัลเดอร์เพื่อหาจังหวะใช้มาดอนน่าเป็นระเบิดมนุษย์แต่เมื่อล้มเหลวเขาก็ใช้กับดับหลุมทรายดูดทำให้เมทัลเดอร์เสียหลักและถูกขังในกรงที่สร้างจากแท่งเหล็กและยังปล่อยแสงไฟฟ้าจากหอกเพื่อหวังเล่นงานเมทัลเดอร์แต่ก็พลาดอีกจากความช่วยเหลือของมาดอนน่าจนถูกเมทัลเดอร์เล่นงานจนตกลงไปในกับดักเสียเอง ในทีแรกเขาร้องขอชีวิตเพื่อให้เมทัลเดอร์ใจอ่อนแต่กะจะเล่นงานทีเผลอจึงถูกเมทัลเดอร์ผ่าด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" จนร่างขาดสองท่อน ในตอนที่ 27 มี "วอกเกอร์ ทู" (ウォッガー II) ซึ่งมีรูปร่างเหมือนวอกเกอร์ทุกประการเว้นสีของชุดที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวจากเดิมที่เป็นสีออกน้ำเงินปรากฏตัวออกมาและรับคำสั่งตามล่าสัตว์ทดลอง "โกลิกอน" ระหว่างการไล่ล่าก็ถูกเมทัลเดอร์ปราบด้วยท่า "เมทัล ทอร์นาโด" และกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในตอนที่ 37 โดยพยายามจะขัดขวางเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ที่บุกเข้ามายังสำนักงานใหญ่ของบริษัทเครือคิริฮาระและถูกเมทัลเดอร์จัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม"
  • นักสู้ระเบิด การาโด้ (爆闘士ガラドー)
นักรบรูปแบบนินจาที่มีอาวุธลับมากมายทั้ง หอกสั้นที่เปลี่ยนรูปแบบได้ ไพ่ระเบิด ดาวกระจายและวิชาแยกร่าง รวมทั้งพ่นไฟได้ ต่อสู้กับเมทัลเดอร์เป็นครั้งแรกในตอนที่ 12 ร่วมกับพวกเคย์โทชิคาเงะเพื่อตามจับ "วิสด้อม" ที่ล้มเหลวในการลอบสังหารเมทัลเดอร์ และได้รับคำสั่งให้ตามจับวิสด้อมในตอนที่ 15 เพื่อให้พวกกองทัพมอนสเตอร์ใช้เป็นตัวประกัน การาโด้ร่วมแข่งแรลลี่ในตอนที่ 23 โดยเป็นไม้แรกของกองทัพเสื้อเกราะสามารถกระโดดข้ามกำแพงในด่านที่ 2 ไปได้สบายๆแต่ถูกดัมเน็นจากกองทัพมอนสเตอร์ที่โผล่มาเล่นงานอย่างไม่ทันตั้งตัวจนสลบเหมือด ในตอนที่ 24 วางแผนจับตัวฮัคโคและไมมาเป็นตัวประกันเพื่อล่อเมทัลเดอร์มาติดกับแต่เมทัลเดอร์ก็ใช้เทคนิคการหลบหนีแบบนักมายากลเอาตัวรอดมาได้ การาโด้ก็ใช้วิชานินจาทั้งหมดและอาวุธสารพัดอย่างดอกไม้ระเบิด ไม้เท้าพ่นไฟในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์แต่ก็ถูกจัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" จนผลัดตกเขา การาโด้กลับมาอีกครั้งในตอนที่ 33 หลังฟื้นฟูสภาพและร่วมไล่ล่าท๊อปกันเดอร์ก่อนจะถูกยิงจนบาดเจ็บและกลับมาอีกครั้งในตอนที่ 37 เพื่อพยายามจะขัดขวางเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ที่บุกเข้ามายังสำนักงานใหญ่ของบริษัทเครือคิริฮาระและถูกเมทัลเดอร์จัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม"
  • นักสู้ระเบิด โรบินเคน (爆闘士ロビンケン)
นักรบรูปแบบทหารคอมมานโดลายพรางที่ไม่สนใจตำแหน่งใดๆปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ 14 เพื่อจัดฉากตามเล่นงานมาดอนน่าเพื่อล่อเมทัลเดอร์ให้มาติดกับของวอกเกอร์ เขาปรากฏตัวอีกครั้งในตอนที่ 23 ระหว่างการแข่งแรลลี่ของกองทัพเนรอสแม้เขาจะไม่ได้เข้าร่วมแต่ปฏิบัติภารกิจลับจากก๊อดเนรอสโดยจับตัวประกันล่อให้เมทัลเดอร์มาเจอกับการแข่งแรลลี่เพื่อเป็นบททดสอบสุดท้ายแก่ผู้เข้าเส้นชัยแทน เมื่อเมทัลเดอร์หนีไปได้พร้อมกับตัวประกัน โรบินเคนก็ตามไปโดยต้อนเมทัลเดอร์เข้าไปยังลานกับดักที่เตรียมไว้แต่ก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงจนถูก "เลเซอร์ อาร์ม" จัดการลงไป
  • นักสู้เกรี้ยวกราด เบ็น K (激闘士ベンK)
นักรบผู้มีบุคลิคของ "มุซาชิโบ เบ็งเค" ที่มีค้อนยักษ์เป็นอาวุธหลักเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของกองทัพที่ต่อกรกับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 3 โดยเขาเอาชนะเกบารอสในการประลองหาตัวแทนไปกำจัดเมทัลเดอร์ ในตอนแรกเขาใช้เคียวสั้นเป็นอาวุธลับซัดใส่ขาของริวเซย์จนเผยให้เห็นชิ้นส่วนเครื่องจักรสร้างความตกใจให้แก่ไมเป็นอย่างมาก เบ็น K ไล่ตามริวเซย์เข้าป่าและทำการต่อสู้กดดันเมทัลเดอร์ด้วยค้อนยักษ์แต่ก็พลาดท่าถูกเล่นงานด้วย "จี คิ๊ก" จนหน้ากากแตกแต่เมทัลเดอร์ก็ไว้ชีวิตเนื่องจากเขาเป็นมนุษย์และด้วยคำพูดของเมทัลเดอร์ที่ว่า "ชีวิตนั้นมีค่า อย่าทิ้งมันไปสิ" ทำให้เขาสำนึกได้และกลับใจ เบ็น K แยกตัวออกจากกองทัพเนรอสโดยสิ้นเชิง ภายหลังจากเมทัลเดอร์ไว้ชีวิตเขาก็ออกเดินทางพเนจรเพียงลำพัง ในตอนที่ 13 ก็ร่วมสู้กับเมทัลเดอร์โดยพยายามจะปกป้องครอบครัวของตัวประกันแต่เสียชีวิตจากการรุมโจมตีของพวกเคย์โทชิคาเงะในสภาพยืนตายเพราะอยากจะปกป้องตัวประกันจนถึงที่สุดแม้สิ้นลมอย่างเบ็งเคที่ยืนตายในสนามรบเพื่อจะปกป้องโยชิซึเนะผู้เป็นนาย
  • นักสู้เกรี้ยวกราด แจมเน่ (激闘士ジャムネ)
นักรบที่ถนัดการชกมวย ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ 8 โดยเป็นลูกมือของบาร็อคในการพาตัวประกันหนีออกมาจากการคุมตัวของเฮดกรอส และช่วยโรบินเคนจัดฉากเล่นงานมาดอนน่าเพื่อล่อเมทัลเดอร์มาติดกับ จากนั้นก็ติดตามจูโบไล่ล่าเมทัลเดอร์ในตอนที่ 19 ส่วนตัวเขานั้นได้ต่อสู้กับเมทัลเดอร์จริงๆในตอนที่ 21 โดยดำเนินแผนการใช้หิ่งห้อยเทียมล่อคนหนุ่มสาวมาเพื่อดูดสารอาหารไปใช้เลี้ยงกองทัพมอนสเตอร์ แจมเน่มีทักษะการชกมวยและคิ๊กบ๊อกซิ่งเป็นหลักและสามารถใช้นวมยิงออกไปเป็นหมัดจรวดติดตามเป้าหมายและระเบิดได้ด้วย เมทัลเดอร์ค้นพบจุดอ่อนคือหัวเข่าและขาจนถูกเมทัลเดอร์เล่นงานด้วย "เมทัล บอมเบอร์" จนตกลงไปทะเลสาบ จากนั้นก็กลับมาในตอนที่ 33 หลังจากฟื้นฟูสภาพและร่วมไล่ล่าท๊อปกันเดอร์ก่อนจะถูกยิงจนระเบิดระหว่างการต่อสู้ ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งในตอนที่ 37 โดยพยายามจะขัดขวางเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ที่บุกเข้ามายังสำนักงานใหญ่ของบริษัทเครือคิริฮาระและถูกท๊อปกันเดอร์ยิงจนเสียชีวิตไปในตอนนี้เอง
  • นักสู้ระดับกลาง มุคิมุคิแมน (中闘士ムキムキマン) และ นักสู้ระดับกลาง ฟูฟูชู (中闘士フーフーチュウ)
นักสู้ระดับกลางที่ปรากฏตัวร่วมทีมตามล่าดอกเตอร์โคกะกับพวกจูโบในตอนที่ 1 โดยมุคิมุคิแมนนั้นเป็นนักมวยปล้ำตกชั้นกล้ามโตแต่เสียงเล็กสวมชุดรบและวิกผมสีขาวส่วนฟูฟูชูเป็นชายอ้วนสวมหมวกสีดำใบใหญ่และเสื้อเกราะสีแดงมีธนูเป็นอาวุธ ต่อสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 1 โดยเล่นงานริวเซย์ก่อนที่จะแปลงร่างได้สบายๆแต่พอริวเซย์แปลงร่างเป็นเมทัลเดอร์แล้วทั้งสองก็โดนเหวี่ยงทิ้งเป็นว่าเล่น จากนั้นทั้งสองก็ไม่เคยออกปฏิบัติงานภาคสนามแบบเป็นเรื่องเป็นราวอีกเลยโดยทำหน้าที่เป็นตัวโจ๊กเรียกเสียงฮาซะมากกว่าในช่วง 10 ตอนแรก จากนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เห็นทั้งสองคนอีกเลยจนคาดว่าอาจจะเสียชีวิตไปพร้อมกับการระเบิดของโกสต์แบงค์ก็เป็นได้
  • ยูริโกะ (ユリコ) / นักสู้ระดับล่างฝึกหัด มาดอนน่า (軽闘士見習いマドンナ)
หญิงสาวที่ถูกพวกเนรอสจับตัวไปทำงานที่โกสต์แบงค์ แต่ถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักรบของกองทัพเสื้อเกราะเนื่องจากคูลกินได้เห็นแววจากการต่อสู้ป้องกันตัวและแนะนำให้วอกเกอร์นำไปใช้ประโยชน์โดยวอกเกอร์เลื่อนตำแหน่งจากทาสหญิงมาเป็นนักสู้ระดับล่างฝึกหัดในความควบคุมของตนโดยมอบดาบเป็นอาวุธ ส่วนมาดอนน่าก็มีความตั้งใจรับใช้กองทัพเนรอสเพียงเพื่อให้ช่วยรักษาน้องสาวที่ป่วยหนัก แต่เนื่องจากริวเซย์ได้ช่วยพาน้องสาวของมาดอนน่าที่เจอกันโดยบังเอิญส่งโรงพยาบาลและจำมาดอนน่าได้จากรูปที่น้องสาวพกติดตัวจึงพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้ตีตัวออกห่างจากเนรอส แต่มาดอนน่าที่อยากช่วยน้องสาวนั้นไม่เชื่อพยายามจะสู้กับเมทัลเดอร์โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์เพื่อกำจัดเมทัลเดอร์และด้วยความช่วยเหลือของสปริงเกอร์ เมทัลเดอร์จึงทำลายตัวจุดชนวนได้และเมื่อมาดอนน่ารู้ความจริงก็พยายามจะช่วยเหลือเมทัลเดอร์ที่ถูกกับดักหลุมทรายดูดโดยสู้กับวอกเกอร์เพื่อถ่วงเวลาให้เมทัลเดอร์หนีออกมาและกำจัดวอกเกอร์ลงได้ในที่สุด หลังถูกช่วยเหลือเธอก็กลับมาอยู่กับน้องสาวอีกครั้งและเธอก็ไม่ข้องแวะกับจักรวรรดิ์เนรอสอีกเลย ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในส่วนน้อยของผู้ตีตัวออกห่างจากจักรวรรดิ์เนรอสแล้วยังมีชีวิตอยู่
  • อาร์มลี่ (アームリー)
นักรบที่ปรากฏตัวเพียงช่วงสั้นๆในเนื้อหาแบคกราวนด์ของพี่น้องแท็กสในตอนที่ 7 ในอดีตนั้นมียศนักสู้วีรบุรุษ

กองทัพหุ่นยนต์นักสู้[แก้]

กองทัพหุ่นยนต์นักสู้ (戦闘ロボット軍団) เป็นกองทัพของหุ่นยนต์รบรูปแบบมนุษย์หรือแอนดรอยด์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากโรงงานผลิตอาวุธของกลุ่มบริษัทในเครื่อคิริฮาระโดยมีพื้นฐานมาจากข้อมูลในโครงการพัฒนาโชจินกิเช่นเดียวกับเมทัลเดอร์ จึงมีคุณลักษณะที่ใกล้เคียงกับเมทัลเดอร์มากกว่ากองทัพอื่น สมาชิกในกองทัพไล่ตามยศประกอบด้วย

  • เกราะศักดิ์สิทธิ์ บัลสกี้ (凱聖バルスキー)
ผู้บัญชาการของกองกำลังหุ่นยนต์นักสู้ในรูปของแอนดรอยด์สีโลหะเข้มๆและชิ้นส่วนกลไกสีทองบนหน้าผากที่สามารถปล่อยแสงทำลายได้ นอกจากนี้ยังยิงลำแสงทำลายจากตาและจรวดมิซไซส์จากกำปั้นได้ด้วย มีพาหนะเป็นมอเตอร์ไซด์ติดปืนกลชื่อ "เซอคูราเดอร์" (サーキュラダー) แม้จะเป็นหุ่นยนต์แต่บัลสกี้ก็มีความทระนงตนในการต่อสู้พอสมควรอีกทั้งยังรักพวกพ้องและศักดิ์ศรีแห่งกองทัพหุ่นยนต์นักสู้เป็นอย่างมาก ได้ต่อสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 31 โดยเป็นผู้ดำเนินแผนการใช้แอนดรอยด์เด็กผู้หญิง "ยูเมะจัง" ที่ติดตั้งระเบิดแรงสูงซึ่งจะระเบิดเมื่อสัมผัสกับพลังงานที่แผ่ออกมาจากการแปลงร่างของเมทัลเดอร์เพื่อใช้เป็นระเบิดพลีชีพแต่เนื่องจากยูเมะจังติดตั้งวงจรหัวใจแบบมนุษย์เอาไว้ทำให้ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจระเบิดตัวเองเพื่อไม่ให้เมทัลเดอร์เป็นอันตราย เมทัลเดอร์ที่ระเบิดความโกรธอันแท้จริงออกมาก็เข้าต่อสู้กับบัลสกี้จนสามารถใช้ "เลเซอร์ อาร์ม" ตัดมือขวาของบัลสกี้ในการต่อสู้จนต้องล่าถอยไป ในตอนที่ 36 ได้นำนักรบที่เหลือเข้าต่อสู้กับเมทัลเดอร์แต่ก็พลาดท่าโดนเล่นงานจนตกแม่น้ำและสูญเสียสมุนไปจนหมดแต่ก็ยังรอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของโรเทล ในตอนที่ 38 ได้รับการซ่อมแซมจากก๊อดเนรอสเพื่อออกไปสู้ตัดสินกับเมทัลเดอร์ว่าใครคือหุ่นยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้จะได้รับการคัดค้านจากโรเทลแต่สุดท้ายโรเทลก็ยอมรวมร่างกับบัลสกี้เพื่อมอบพลังและทักษะในการต่อสู้ของเหล่านักรบในกองทัพทุกคนที่โรเทลบันทึกเอาไว้เพื่อให้บัลสกี้ใช้ในการต่อสู้ อาทิ พละกำลังอันมหาศาลของโกแชค อาวุธยิงอันต่อเนื่องของจาส ทักษะการยิงอาวุธลับของบิ๊กเวนย์ ทักษะแม่นปืนของครอสรันเดอร์และหมัดเหล็กทรงพลังของกัลดอสจนสามารถกดดันเมทัลเดอร์จนย่ำแย่แต่เมทัลเดอร์ก็ตอบโต้ด้วยการผ่าเอาส่วนวงจรของโรเทลออกจากร่างของบัลสกี้ด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" และปิดฉากด้วย "จีคิ๊ก" ในวาระสุดท้ายของชีวิตบัลสกี้ดูจะโล่งใจเพราะแม้จะพ่ายแพ้แต่ตนเองก็สู้สุดกำลังแล้วเช่นกันก่อนตายเขาได้ฝากคำพูดสุดท้ายแก่เมทัลเดอร์ว่า "เมื่อมีชีวิตขึ้นมาแล้วก็จงใช้ชีวิตนั้นด้วยความตั้งใจของตัวเอง อย่ากลายเป็นหุ่นเชิดของใครเหมือนกับที่ตัวบัลสกี้เองเป็นมาตลอด" ก่อนร่างของบัลสกี้จะระเบิดจากระบบทำลายตัวเองและได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง
  • ขุนพลหาญกล้า กัลดอส (豪将ガルドス)
หุ่นยนต์รบสไตล์นักมวยที่มีหมัดเหล็กอันทรงพลังเป็นอาวุธ ต่อสู้กับเมทัลเดอร์ครั้งแรกในตอนที่ 6 หลังจากที่ท๊อปกันเดอร์หลบหนีไปในระหว่างการประหารอาจจะทำให้บัลสกี้ถูกลงโทษในข้อหาบกพร่องต่อหน้าที่เพราะปล่อยให้ท๊อปกันเดอร์หนีไปได้ กัลดอสจึงอาสาไปสู้กับเมทัลเดอร์เพื่อกู้หน้าให้บัลสกี้ กัลดอสที่มีทักษะการชกมวยเป็นเลิศและหมัดเหล็กที่หนักหน่วงกดดันเมทัลเดอร์ได้ราวกับจับนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทมาต่อยกับนักมวยรุ่นไลท์เวทจนวงจรของเมทัลเดอร์เสียหายไม่น้อย อีกทั้งยังสามารถปล่อยระเบิดไฟฟ้าออกมาจากหนวดที่โผล่ออกมาจากหัวได้ แต่กัลดอสก็ถูกปราบไปด้วย "เฮด ครัช" แต่ก็ถูกซ่อมแซมกลับมาในตอนที่ 15 โดยพาพวกกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ต่อสู้กับเมทัลเดอร์จนเฮดกรอส จูเนียร์ปรากฏตัวออกมาและเป็นผู้พาจูเนียร์ไปเสนอตัวต่อก๊อดเนรอส ในตอนที่ 30 กัลดอสนำทีมในแผนตามหาและทำลายฐานทัพลับของเมทัลเดอร์โดยจับเด็กที่คาดว่าได้รับความช่วยเหลือโดยเมทัลเดอร์ให้ไปพักในฐานทัพระหว่างหลงป่ามาคาดคั้นหาตำแหน่งของฐานทัพลับ ในครั้งนี้เขามีอาวุธใหม่เพิ่มเติมมาอีกมากได้แก่ จรวดมิซไซส์จากหมัดเหล็กอันใหม่ ระเบิดไฟฟ้าจากช่องบนหัว และลำแสงทำลายจากอุปกรณ์ที่ซ่อนไว้ตรงหน้าอกแต่ก็ถูกทำลายด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" ในที่สุด
  • วิญญาณร้าย ครอสรันเดอร์ (暴魂クロスランダー)
แอนดรอยด์มือสังหารสังกัดกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ในชุดรัดรูปสีแดงสวมเกราะขาวปรากฏตัวในตอนที่ 16 ได้รับการปรับยศเลื่อนชั้นจาก "นักสู้ระเบิด" เป็น "วิญญาณร้าย" แทนท๊อปกันเดอร์ที่ทรยศโดยเป็นมือปืนลอบสังหารที่ทำงานร่วมกับองค์กรก่อการร้ายของอเมริกาที่ดำเนินแผนการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล มีอาวุธเป็นปืน 2 กระบอกโดยกระบอกนึงเป็นปืนรุ่นใหม่ที่ก๊อดเนรอสมอบให้ ถูกเรียกตัวมาเพื่อจัดการกับเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ มีนิสัยเจ้าเล่ห์และขี้ขลาดใช้วิธีสกปรกทุกรูปแบบเพื่อบรรลุเป้าหมายแตกต่างกับวิธีการต่อสู้ของท็อปกันเดอร์อย่างสิ้นเชิงและยังติดหรูสวมเครื่องประดับคล้ายงูเห่าบนหัวแต่ถูก "จี คิ๊ก" ของเมทัลเดอร์เข้าเต็มๆจนยับเยินสร้างความอับอายแก่ครอสรันเดอร์เป็นอย่างมากแม้จะได้รับการซ่อมแซมในตอนที่ 17 แต่ก็ไม่เหมือนเดิมโดยแทนที่เครื่องประดับด้วยปืนลับกระบอกที่ 3 ที่ซ่อนอยู่แทนแต่ก็ถูกท๊อปกันเดอร์ยิงเข้าที่หัวซ้ำอีกครั้งจนอับอายซ้ำสอง ครอสรันเดอร์นั้นมักใช้วิธีสกปรกถึงขั้นใช้นักรบอื่นเป็นนกต่อแล้วลอบยิงศัตรูจากที่ลับจนสร้างผลงานได้หลายครั้งอีกทั้งมีนิสัยโอ้อวดจนสร้างความไม่พอใจต่อนักรบอื่นพอสมควรไม่เว้นแม้แต่เกราะศักดิ์สิทธิ์แห่งกองทัพหุ่นยนต์นักสู้อย่างบัลสกี้ ในตอนที่ 23 ครอสรันเดอร์ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งแรลลี่แต่ไปคอยซุ่มยิงคู่แข่งจากกองทัพอื่นโดยสอยสโตรปทั้งสองตัวที่มาคอยช่วยนักรบของกองทัพเกราะยนต์ จากนั้นก็วางแผนเล่นงานท๊อปกันเดอร์ตัวจริงจนเสียหายแล้วใช้ท๊อปกันเดอร์ตัวปลอมเพื่อเล่นงานเมทัลเดอร์ในตอนที่ 33 และได้ต่อสู้กับเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ตัวจริงก่อนจะถูกกำจัดด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" ในที่สุด
  • นักสู้วีรบุรุษ จาส (雄闘ジャース)
หุ่นยนต์นักสู้สีขาวที่มีหัวเหมือนฉลาม ติดตั้งปืนใหญ่ 2 กระบอกที่กลางหลัง 4 กระบอกที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง และอีก 4 กระบอกที่ท่อนแขน รวมทั้งหมด 10 กระบอกถนัดการโจมตีระยะไกล ออกติดตามไปกับหุ่นยนต์นักสู้ตัวอื่นทั้งการไล่ล่าโกแชคในตอนที่ 11 และการจู่โจมเมทัลเดอร์ในตอนที่ 15 แต่ถูกเมทัลเดอร์เล่นงานจนเกือบถูกทำลายแต่ได้รับการช่วยเหลือจากเฮดกรอส จูเนียร์จนรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และฟอร์มทีมกับนักรบคนอื่นในตอนที่ 22 เพื่อหลอกใช้แก็งก์โรลเลอร์สเกตที่มีฝีมือด้านกังฟู "แก็งก์โลมาแดง" ไปต่อสู้กับเมทัลเดอร์เพื่อหวังใช้จุดอ่อนที่เมทัลเดอร์ไม่กล้าลงมือกับคนธรรมดาแล้วค่อยหาโอกาสเล่นงานซ้ำเติมแต่ถูกเมทัลเดอร์เล่นงานด้วย "เมทัล บอมเบอร์" จนถูกทำลายไปครั้งนึง จากนั้นก็ได้รับการซ่อมแซมในตอนที่ 33 และถูกท๊อปกันเดอร์ยิงจนถูกทำลายไปอีกครั้งก่อนจะปรากฏตัวในตอนที่ 36 ติดตามบัลสกี้ในแผนการใช้พ่อของไมที่ถูกล้างสมองให้ไปสู้กับเมทัลเดอร์แล้วคอยซ้ำเติมแต่ก็ถูกท๊อปกันเดอร์ยิงจนถูกทำลายไปในครั้งนี้เอง
  • นักสู้ระเบิด โกแชค (爆闘士ゴチャック)
หุ่นยนต์รบสไตล์นักมวยปล้ำสีเงินมีจุดเด่นคือพละกำลังอันมหาศาล ได้รับสิทธิ์ออกปฏิบัติการในตอนที่ 2 จากการเอาชนะดัมเน็นในการประลอง ท่าถนัดก็คือการจับล็อกคอแล้วบิดจนดึงศีรษะของคู่ต่อสู้ออกมาเรียกว่า "โกแชค ล็อก" ในการต่อสู้เกือบจะเอาชนะเมทัลเดอร์ได้แล้วแต่ถูกเมทัลเดอร์พลิกกลับมากระชากแขนและดึงหัวของโกแชคหลุดออกมา แต่เมื่อหัวหลุดโกแชคก็ยังมีปืนใหญ่ซ่อนเอาไว้เป็นอาวุธเด็ดแต่ก็ถูกเมทัลเดอร์ปราบด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" ลงได้ครั้งนึงก่อนจะล้มลงไปด้วยเพราะเสียหายจากการต่อสู้ จากนั้นโกแชคก็ได้รับการซ่อมแซมและช่วยบิ๊กเวนย์ให้หลบหนีไปได้จึงถูกพรรคพวกจับกุมในฐานะคนทรยศเพื่อใช้เป็นข้อต่อรองให้บิ๊กเวนย์ไปสู้กับเมทัลเดอร์ และยังร่วมกับกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ตัวอื่นในการโจมตีเมทัลเดอร์ทั้งในตอนที่ 15 และ 19 จากนั้นในตอนที่ 36 ระหว่างที่ไล่ตามเมทัลเดอร์ที่ได้รับความเสียหายและพยายามกลับไปซ่อมแซมที่ฐานทัพลับก็ถูกท๊อปกันเดอร์ยิงเข้าที่หัวจนหลุดและถูกทำลายไปในตอนนี้เอง
  • นักสู้เกรี้ยวกราด เกบารอส (激闘士ゲバローズ)
หุ่นยนต์รบสีโลหะที่มีแผ่นปิดหน้าสีดำสมารถเปลี่ยนแขนขวาเป็นใบมีดและแขนซ้ายเป็นคีมหนีบ มีพลังในการกระโดดค่อนข้างสูง ร่วมทีมกับจูโบในการตามล่าดอกเตอร์โคกะในตอนที่ 1 และถูกเบ็น K ทุบหัวด้วยค้อนจนหัวหลุดในการประลองในตอนที่ 3 แต่ก็ถูกซ่อมแซมและติดตามนักรบอื่นในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์อีกหลายครั้ง ในการแข่งแรลลี่เป็นไม้แรกของกองทัพหุ่นยนต์นักสู้สามารถขึ้นนำหลังจากผ่านด่านแรกไปได้แต่ก็ผ่านด่านที่ 2 ที่มีกำแพงกั้นกับรั้วไฟฟ้าไม่ได้จนถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงช๊อตจนต้องออกจากการแข่งเป็นคนแรก จนในตอนที่ 36 ติดตามบัลสกี้ในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์แต่ก็ถูกทำลายด้วย "เลเซอร์ อาร์ม"
  • นักสู้โหดเหี้ยม ซาเก็น (烈闘士ザーゲン)
หุ่นยนต์รบในรูปแบบยมทูตสีดำที่มีแขนซ้ายเป็นเคียวขนาดใหญ่ผู้ไม่สรใจต่อชื่อเสียงและตำแหน่งใดๆ ติดตามกัลดอสในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 15 ส่วนในตอนที่ 18 ซาเก็นฝันว่าเมทัลเดอร์ลอบเข้ามายังโกสต์แบงค์และสังหารก๊อดเนรอสลงได้ เขาจึงอาสาออกไปจัดการกับเมทัลเดอร์โดยในครั้งแรกได้จัดฉากว่าจะลักพาตัวผู้ส่งสารไปพร้อมกระเป๋าเอกสารที่บรรจุดิสก์ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับก๊อดเนรอสแต่จริงๆแล้วบรรจุระเบิดหวังทำลายเมทัลเดอร์แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงขอให้ก๊อดเนรอสติดตั้งระเบิดร้ายแรงไว้ในตัวเพื่ออุทิศตัวในการทำลายเมทัลเดอร์ให้จงได้ ในการต่อสู้ซาเก็นใช้ใบเคียวที่แขนซ้ายเฉาะลึกเข้าไปที่ไหล่ขวาของเมทัลเดอร์เพื่อยึดตัวเองกับเมทัลเดอร์หวังระเบิดตัวเองไปพร้อมกันอีกทั้งยังคอยปล่อยระเบิดไฟฟ้าจากหนามบนหัวเพื่อไม่ให้เมทัลเดอร์มีโอกาสรอดแต่เมทัลเดอร์ก็ใจถึงโดยยอมบั่นแขนขวาของตัวเองจนหลุดจากตัวเพื่อทิ้งระยะห่างจากซาเก็นแล้วใช้แขนขวาที่หลุดขว้างใส่ซาเก็นจนถูกระเบิดทำลายไม่เหลือซาก
  • นักสู้โหดเหี้ยม รัปโซดี้ (烈闘士ラプソディ)
สมาชิกกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ที่แต่เดิมเป็นหุ่นยนต์รับใช้มีหน้าที่เล่นไวโอลินในโกสต์แบงค์เท่านั้นมีนิสัยรักสงบแต่ภายหลังก็ถูกดัดแปลงและเลื่อนยศให้เป็นนักสู้โหดเหี้ยม โดยมีร่างกายที่ทนต่อการโจมตีของเมทัลเดอร์ได้เพราะติดตั้งอุปกรณ์สลายแรงโจมตีและเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ได้มากจนสามารถหักอาวุธของพี่น้องแท็กสทั้ง 2 คนในการประลองได้เลยทีเดียว เป้าหมายของก๊อดเนรอสก็คือใช้ความรักที่ทัตซึโอะมีต่อเสียงดนตรีเป็นอาวุธที่จะใช้เล่นงานเมทัลเดอร์เพราะทัตซึโอะนั้นมีความรักต่อดนตรีเป็นอย่างมากโดยก๊อดเนรอสได้มอบไวโอลิน "สตราดิวาริอุส" ซึ่งเป็นไวโอลินชั้นสูงและเสียงเพลงเป็นตัวป้องกันขณะต่อสู้เพราะเมทัลเดอร์ที่มีความทรงจำของทัตซึโอะไม่กล้าลงมือกับสตราดิวาริอุสจนถูกเล่นงานจนย่ำแย่เกือบจะพ่ายแพ้แต่เมื่อตัดใจสู้และมีจังหวะเล่นงานรัปโซดี้จนวงจรที่ถูกดัดแปลงเกิดความเสียหายและกลับเป็นหุ่นรักสงบเหมือนเดิม รัปโซดี้ขอเล่นเพลงเป็นครั้งสุดท้ายเพราะตนเองก็มีความรักในเสียงเพลงเช่นกันแต่ขณะที่รัปโซดี้กำลังบรรเลงเพลงอย่างไพเราะก็ถูกดาบาโบยิงถล่มด้วยจรวดมิซไซส์จนรัปโซดี้ถูกทำลาย รัปโซดี้ได้รับการซ่อมแซมแต่ถูกลดชั้นให้กลับไปเป็นเพียงหุ่นยนต์รับใช้ตามเดิม ในตอนที่ 19 ได้พบกับเด็กน้อยที่พลัดหลงเข้ามาในโกสต์แบงค์โดยเด็กน้อยอยู่ในสภาพที่หวาดกลัวและร้องไห้ไม่หยุดทำให้รัปโซดี้พยายามเล่นเพลงกล่อมเด็กน้อยให้สงบและเพราะรัปโซดี้แสดงความเป็นมิตรจึงได้รับดอกไม้จากเด็กน้อยเป็นการตอบแทน รัปโซดี้จึงพยายามจะพาเด็กน้อยกลับไปส่งแต่ถูกจูโบจับได้และนำเรื่องไปรายงานก๊อดเนรอสเพื่อหวังใช้เป็นเหยื่อล่อเมทัลเดอร์โดยรัปโซดี้ไม่เห็นด้วย ประจวบเหมาะกับที่เมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ตามเข้ามาช่วยพอดีทำให้รัปโซดี้มีโอกาสคุ้มกันเด็กน้อยแล้วพาหนีออกจากโกสต์แบงค์ ภายหลังจากนั้นรัปโซดี้ก็ตีตัวจากจักรวรรดิ์เนรอสตลอดไปโดยใช้ชีวิตเป็นหุ่นยนต์นักดนตรีที่เป็นที่รักแก่ผู้ที่ได้พบเห็นและเป็นอีกหนึ่งผู้ที่รอดชีวิตมาได้หลังตีตัวออกจากจักรวรรดิ์เนรอส
  • นักสู้ระดับสูง โรเทล (強闘士ローテール)
หุ่นยนต์สีขาวเพศหญิงแม้จะมียศเป็นนักสู้ระดับสูงแต่ก็แทบไม่มีพลังในการต่อสู้ใดๆและไม่เคยออกปฏิบัติการภาคสนามเลยแต่ก็เป็นสมาชิกที่มีค่าของกองทัพหุ่นยนต์นักสู้โดยเธอทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ รวบรวมข้อมูลการต่อสู้และเป็นตัวแบ็คอัพข้อมูลและพลังการต่อสู้ของสมาชิกในกองทัพ โดยในตอนที่ 38 หลังจากช่วยบัลสกี้ให้รอดมาได้ก็พยายามจะคัดค้านไม่ให้บัลสกี้ออกไปสู้อีกเสมือนว่าเธอจะมีความรู้สึกดีๆให้แก่บัลสกี้แต่เมื่อบัลสกี้ตัดสินใจออกไปต่อสู้กับเมทัลเดอร์หลังจากได้รับการซ่อมแซมจากก๊อดเนรอสเธอก็ร่วมต่อสู้ด้วยโดยรวมร่างกับบัลสกี้เพื่ออัปโหลดข้อมูลพลังและอาวุธของนักรบในกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ทั้งหมดเพื่อให้บัลสกี้ใช้ในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์ สุดท้ายโรเทลก็ถูกทำลายโดยถูกเมทัลเดอร์ใช้ "เลเซอร์ อาร์ม" ตัดวงจรส่วนของโรเทลออกจากร่างของบัลสกี้
  • นักสู้ระดับล่าง ก็อบลิท (軽闘士ゴブリット) และ นักสู้ระดับล่าง เดเดมอธ (軽闘士デデモス)
หุ่นยนต์รบที่ถูกลดขั้นลงจากนักสู้ระดับสูงมาเป็นนักรบระดับล่างเพราะทำงานผิดพลาดปรากฏตัวในตอนที่ 16 พร้อมกันในสภาพยับเยินและกลายเป็นลิ่วล้อของครอสรันเดอร์แต่ก็เป็นเพราะครอสรันเดอร์มักใช้ทั้งสองเป็นตัวล่อไปรับกระสุนของศัตรูส่วนตัวเองก็ลอบยิงจากที่ปลอดภัยจนสร้างผลงานได้งดงามส่วนทั้งก็อบลิทกับเดเดมอสก็เจ็บตัวอยู่ร่ำไปโดยได้รับแต่คำตำหนิและเหยียดหยามเป็นรางวัล ก็อบลิทเป็นหุ่นยนต์สีดำสวมหน้ากากสีเงินมีปืนยาวและหอกปลายปืนเป็นอาวุธส่วนเดเดมอธเป็นหุ่นยนต์สีน้ำเงินมีเขาคล้ายปีศาจมีปืนสั้นกับสว่านที่มือซ้ายที่ยิงออกไปเป็นสมอได้เป็นอาวุธ มักปรากฏตัวเป็นลูกไล่ของกองทัพหุ่นยนต์นักสู้หลายครั้ง ในการแข่งแรลลี่ในตอนที่ 23 ทั้งสองก็พอจะมีผลงานอยู่บ้างโดยก็อบลิทเป็นไม้ที่ 2 ต่อจากเกบารอสสามารถใช้ปืนยิงฝ่ากำแพงในด่านที่ 2 และใช้ทักษะการยิงปืนทำลายกับระเบิดในด่านที่ 3 แต่กว่าจะคิดได้ก็ถูกกองทัพอื่นทิ้งห่างไปไกลแต่ก็สามารถแซงจนขึ้นนำได้ก่อนจะถึงด่านสุดท้ายแต่เพราะด่านสุดท้ายต้องไต่หน้าผาขึ้นไปก๊อบลิทก็หมดปัญญาจนต้องส่งไม้ต่อให้เดเดมอสแทน ส่วนเดเดมอสที่เป็นไม้สุดท้ายก็ใช้สมอที่มือซ้ายยึดตัวเองเพื่อปีนหน้าผาจนเกือบจะเข้าเส้นชัยได้อยู่แล้วแต่ถูกไบรดี้จากกองทัพมอนสเตอร์ฉวยโอกาสเกาะตามขึ้นไปจนเล่นงานเดเดมอสจนผลัดตกเขาทำให้อดเข้าเส้นชัยไปแม้ก็อบลิทจะพยายามเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกขัดขวางจากเกลดริงที่ขว้างเมือกใส่ขาจนขยับไม่ได้ ถูกกำจัดในตอนที่ 35 โดยถูกท๊อปกันเดอร์ทำลายลงพร้อมกัน
  • นักสู้ระดับล่าง บูลคิด (軽闘士ブルキッド)
มีรูปร่างเหมือนพวกเคย์โทชิคาเงะแต่มีสีน้ำเงินและอยู่สังกัดกองทัพหุ่นยนต์นักสู้ สู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 11 แต่ก็พ่ายแพ้และได้รับการซ่อมแซมจากบิ๊กเวนย์ เมื่อได้รู้ว่าบิ๊กเวนย์เคยเป็นนักสู้ระดับตำนานของกองทัพเนรอสก็ชื่นชมและอยากจะแข็งแกร่งอย่างบิ๊กเวนย์บ้างจึงขอตามตื้อเพื่อเป็นลูกศิษย์ เมื่อบิ๊กเวนย์ตัดสินใจหนีออกจากจักรวรรดิ์แล้วถูกตามล่า บูลคิดจึงติดตามไปและต่อสู้กับบิ๊กเวนย์จนถูกทำลาย
  • ร็อบเบิล (ロブル)
อดีตนักรบยศนักสู้ระเบิดและเป็นเพื่อนสนิทของท๊อปกันเดอร์ ปรากฏตัวในเนื้อหาแบคกราวน์ของพี่น้องแท็กส
  • บิ๊กเวนย์ (ビッグウェイン)
อดีตขุนพลหาญกล้าของกองทัพหุ่นยนต์นักสู้เป็นหุ่นยนต์แก่ในเกราะสีดำเทา ในอดีตเป็นนักรบไร้พ่ายที่ได้รับฉายาว่า "ยักษ์ในตำนาน" เป็นอาจารย์ของโกแชค ภายหลังเกษียณตัวเองมาเป็นหุ่นยนต์รับใช้ไร้ตำแหน่งที่มีหน้าที่ซ่อมแซมหุ่นยนต์เพราะเบื่อหน่ายการต่อสู้ บิ๊กเวนย์ตัดสินใจหนีออกจากจักรวรรดิ์และได้รับความช่วยเหลือจากโกแชคทำให้โกแชคถูกจับในฐานะคนทรยศไปด้วย บัลสกี้จึงยื่นข้อเสนอให้บิ๊กเวนย์ไปสู้กับเมทัลเดอร์เพื่อแลกกับการอภัยโทษให้โกแชค บิ๊กเวนย์มีอาวุธร้ายคือยิงลูกศรสามลูกจากข้อมือได้และยังมีพละกำลังอันมหาศาลจนจับไซด์แฟนท่อมทุ่มได้อย่างง่ายดายและยังมีอาวุธลับซ่อนอยู่ที่หน้าอกสามารถยิงกระสุนออกมาได้และยังมีแผงหนามแหลมที่ท่อนแขนซ้ายเป็นอาวุธลับ ถูกเมทัลเดอร์จัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" แต่ก็ไม่ล้มลงทันที บิ๊กเวนย์ลุกขึ้นมาเพื่อยิงศรสุดท้ายใส่เมทัลเดอร์ที่หันหลังให้แม้จะพลาดก็ตาม ในที่สุดยักษ์ในตำนานก็หยุดการทำงานเพราะไม่อยากสู้อีกต่อไปและร่างระเบิด บิ๊กเวนย์จึงได้พบกับความสงบอย่างแท้จริง โกแชคที่ตามมาช่วยไม่ทันก็ทำหลุมฝังศพเป็นอนุสรณ์ให้แก่อาจารย์ผู้ล่วงลับ ณ จุดที่บิ๊กเวนย์ถูกทำลายนั่นเอง

กองทัพมอนสเตอร์[แก้]

กองทัพมอนสเตอร์ (モンスター軍団) เป็นกองทัพของสัตว์ประหลาดหรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์ถูกสร้างและดัดแปลงจากสิ่งมีชีวิตต่างๆโดยใช้ไบโอเทคโนโลยีขั้นสูงสามารถปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อฟื้นฟูสภาพได้ ความสามารถโดยรวมของนักรบในกองทัพมอนสเตอร์ได้แก่ พ่นหรือปล่อยเมือกเหนียว พ่นเส้นใยออกมา และกลายร่างเป็นก้อนเมือกเหลวๆที่สามารถเล็ดลอดผ่านช่องเล็กๆหรือแฝงตัวละลายไปกับสภาพแวดล้อมเพื่อพรางตัว เมื่อเสียชีวิตร่างมักสลายตัวกลายเป็นเมือกเหนียวหรือฟอง มีสมาชิกไล่เรียงตามลำดับยศดังนี้

  • เกราะศักดิ์สิทธิ์ เกลดริง (凱聖ゲルドリング)
ผู้บัญชาการกองทัพมอนสเตอร์มีร่างกายกำยำในชุดเกราะสีเขียวที่มีหน้าคล้ายหัวกะโหลกภายใต้หน้ากากแก้วทรงไข่ซึ่งโดยรวมมีรูปลักษณ์เหมือนเต่า ใช้มอเตอร์ไซด์ "แคปตรอน" (キャプトロン) เป็นยานพาหนะ เกลดริงสามารถยิงเมือกเหนียวจากนิ้วมือได้ พ่นไฟได้และปล่อยแสงทำลายหรือรยางค์จากปากก็ได้ มีบุคลิคที่ชอบเล่นสกปรก ขี้อิจฉา ทรยศ ขี้ขลาดและช่างประจบซึ่งเป็นแบบอย่างให้พวกนักรบในสังกัดเอาแบบอย่างตาม ในตอนที่ 15 แม้จะได้เฮดกรอส จูเนียร์มาอยู่ในสังกัดแต่ก็ไม่ยินดีนักที่จะได้เด็กกลายพันธุ์มาเป็นลูกน้องจึงส่งสมุนตัวอื่นไปป่วนด้วยความริษยา ในตอนที่ 32 ได้รู้เรื่องของดอกไม้หายากที่ชื่อว่า "สาวงามร้อยปี" (百年美人) ว่าหากใครได้ดื่มน้ำหวานจากเกสรของมันแล้วจะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เกลดริงจึงออกตามหาดอกไม้นี้ทันทีพร้อมเหล่าลูกสมุนและได้ดื่มน้ำหวานจากเกสรของมันเข้าไปจนมีพลังเพิ่มขึ้นมหาศาลแต่หารู้ไม่ว่าพลังของมันจะเสื่อมทันทีหากผู้ที่ดื่มลงไปแช่น้ำทำให้ถูกเมทัลเดอร์จับกดน้ำจนสิ้นพลังและถูกจัดการด้วย "เลเซอร์อาร์ม" ไปครั้งนึงแต่เกลดริงก็ยังรอดมาได้แล้วกลับมาปรากฏตัวในตอนที่ 35 โดยมีพลังเพิ่มมากขึ้นและสู้ร่วมกับบังโคร่าแต่ก็ถูกเมทัลเดอร์กระชากอวัยวะภายในออกมาและจัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" ไปอีกครั้งจนคราวนี้ร่างของเกลดริงก็แหลกสลายกลายเป็นผุยผงไปในที่สุด อันเป็นจุดสิ้นสุดของกองทัพมอนสเตอร์เพราะสูญเสียนักรบไปทั้งหมด
  • ขุนพลหาญกล้า ไบรดี้ (豪将ブライディ)"
สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนหมาป่าขนฟูที่มีแมงมุมเกาะติดอยู่กลางหลังใช้เขี้ยวเล็บเป็นอาวุธต่อสู้อย่างดุร้ายและสามารถพ่นใยแมงมุมออกมาได้ นิสัยหน้าด้าน มือไว ชอบฉกชิง ปรากฏตัวหลายครั้งพร้อมนักรบคนอื่นๆในกองทัพ ในการแข่งแรลลี่ของกองทัพเนรอสในตอนที่ 23 เป็นไม้สุดท้ายต่อจากบังโคร่าและเกือบได้เป็นผู้ชนะเมื่อใช้วิธีสกปรกเกาะติดไปกับเดเดมอสในด่านสุดท้ายของการแข่งแรลลี่ก่อนจะเล่นงานเดเดมอสจนตกหน้าผาและเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกแต่ก๊อดเนรอสยังไม่ประกาศชัยชนะจนกว่าผู้เข้าเส้นชัยจะจัดการกับเมทัลเดอร์ได้เสียก่อนโดยก๊อดเนรอสได้สั่งโรบินเคนให้ไปจับตัวประกันเพื่อล่อเมทัลเดอร์มาให้แล้ว สุดท้ายเมทัลเดอร์ก็พาตัวประกันหนีไปได้การแข่งแรลลี่ครั้งนี้จึงถือเป็นโมฆะเพราะไม่มีผู้ชนะอย่างแท้จริง ไบรดี้ได้สู้กับเมทัลเดอร์จริงจังในตอนที่ 28 ในแผนล่อจอมโจรหญิง "เรด แพนเธอร์" ที่ก่อเหตุขโมยเพชรล้ำค่าจำนวนมากซึ่งเคยเป็นของ "อิชูอิน" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกก๊อดเนรอสหลอกให้ช่วยรวบรวมทรัพย์สินมาสร้างจักรวรรดิ์เนรอสแต่อิชูอินที่รู้ถึงแผนการนั้นก็ตีตัวออกห่างและนำทรัพย์สินเหล่านั้นไปสร้างตัวในฐานะผู้ค้าอัญมณีและถูกสังหารโดยไบรดี้ในภายหลังเพื่อปิดปากมิให้แพร่งพรายข้อมูลใดๆของก๊อดเนรอสแล้วยึดทรัพย์สินเหล่านั้นมาใช้สร้างจักรวรรดิ์เนรอสแทน ก๊อดเนรอสที่สงสัยว่าจอมโจรหญิงที่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับอิชูอินในทางใดทางหนึ่งจึงส่งไบรดี้ไปสังหารเพื่อปิดปากอีกคน ในครั้งนี้ไบรดี้สามารถยิงกรงเล็บที่แกร่งดุจเพชรออกไปเป็นอาวุธได้แต่ถูกจัดการจนร่างสลายไปเป็นกองเมือก ก่อนจะกลับมาในตอนที่ 32 ในภารกิจติดตามเกลดริงเพื่อค้นหาดอกไม้สาวงามร้อยปี ไบรดี้ได้สู้กับเมทัลเดอร์อีกครั้งในตอนที่ 34 เพราะไบรดี้ซึ่งติดตามพฤติกรรมของชินโง พ่อของไมแล้วพบว่าเขากำลังสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับดอกเตอร์โคกะอันอาจจะนำไปสู่การเผยตัวตนของก๊อดเนรอสได้ ไบรดี้จึงได้รับคำสั่งให้ตามจับตัวชินโงมา แต่คราวนี้แม้ถูกจัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" ไปแล้วก็ยังลุกขึ้นมาสู้ต่อได้เพราะแมงมุมที่กลางหลังทำหน้าที่เหมือนตัวเชิดหุ่นโดยใช้ใยที่ยิงออกมาเป็นตัวเชิด เมทัลเดอร์จึงใช้ "เลเซอร์ อาร์ม" ตัดสายชักและผ่าร่างแมงมุมนั้นเป็นสองเสี่ยงจนคราวนี้ไบรดี้ก็ตายไปจริงๆจนร่างสลายกลายเป็นเมือกไปอีกครั้ง
  • วิญญาณร้าย บังโคร่า (暴魂バンコーラ)
สัตว์ประหลาดรูปแมงป่องสีเทาที่มีเขี้ยวโผล่มาที่หน้าอกและขาสามารถยืดแขนยาวๆไปจับยึดศัตรูได้และสามารถพ่นน้ำลายพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนได้ ในตอนที่ 5 พ่ายแพ้ในการประลองกับท๊อปกันเดอร์ด้วยการแย่งปืนที่วางอยู่บนพื้นแม้จะใช้การยืดแขนเข้าช่วยก็ตาม ร่วมแข่งแรลลี่ในตอนที่ 23 โดยเป็นไม้ที่ 2 ต่อจากดัมเน็นที่เหยีบกับระเบิดโดยแปลงเป็นเมือกมุดดินจนผ่านด่านที่ 3 ไปได้สบายๆและติดตามเกลดริงต่อสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 35 โดยใช้เทคนิคแฝงตัวหลบหลีกไปมาจนในที่สุดก็ถูกเมทัลเดอร์จับได้และถูกเมทัลเดอร์เอาแขนที่ยืดยาวออกมามารัดตัวบังโคร่าเองก่อนจะถูกจัดการด้วย "จีคิ๊ก" จนตกลงมาระเบิดตาย
  • นักสู้วีรบุรุษ กามาด้อน (雄闘ガマドーン)
สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนแมลงสาปที่มีนิสัยตรงข้ามกับชื่อยศอย่างสิ้นเชิง มีหนวดใหญ่สองเส้นและแขนสองข้างที่เป็นแส้สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้เป็นอาวุธแต่ก็สามารถเปลี่ยนแขนเป็นก้ามปูแทนได้เช่นกัน และยังพ่นเมือกเหนียวมาโจมตีได้ ในตอนที่ 4 สู้กับเมทัลเดอร์และถูกกระชากอวัยวะภายในออกมาและถูกซัดตกน้ำแต่ก็ยังรอดมาได้และประลองกับเฮดกรอส จูเนียร์ในตอนที่ 15 แต่ก็สู้ไม่ได้ ในตอนที่ 17 ลักพาตัวไมไปเพื่อเป็นเหยื่อล่อแล้วใช้อาวุธสารพัดทั้งพ่นไฟ พ่นใยเหนียวจากปากแต่ก็ถูกจัดการด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" จนตกหน้าผาระเบิดตายไปในที่สุด
  • นักสู้ระเบิด ดัมเน็น (爆闘士ダムネン)
สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายกิ้งก่าสีเขียวปล่อยแสงจากตาเป็นอาวุธได้ ประลองกับโกแชคในตอนที่ 2 แต่ก็พ่ายแพ้ถูกโกแชคบิดหัวจนหันกลับด้าน แต่ก็ยังรอดมาได้และติดตามนักรบอื่นอีกหลายครั้ง อาทิช่วยเฮดกรอสสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 8 ประลองกับเฮดกรอส จูเนียร์ในตอนที่ 15 แต่ก็พ่ายแพ้จนบาดเจ็บสาหัส การแข่งแรลลี่ในตอนที่ 23 ดัมเน็นเป็นไม้แรกของกองทัพมอนสเตอร์สามารถขึ้นนำได้หลังผ่านด่านที่ 2 โดยเล่นงานการาโด้จนสลบแต่พอไปถึงด่านที่ 3 ก็ซุ่มซ่ามเหยีบกับระเบิดเต็มๆจนต้องออกจากการแข่งขันไป ในตอนที่ 32 ติดตามเกลดริงในการตามหาดอกสาวงามร้อยปีและถูก "จีคิ๊ก" จนตกหน้าผาระเบิดตาย
  • นักสู้เกรี้ยวกราด ซาเค็มโบ (激闘士ザケムボー)
สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนจักจั่นสามาถปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงจากปีกและพ่นของเหลวสีเขียวทางปากซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนมาโจมตีได้ เป็นหนึ่งในทีมที่ออกล่าดอกเตอร์โคกะในตอนที่ 1 และช่วยเฮดกรอสสู้กับเมทัลเดอร์ในตอนที่ 8 ประลองกับเฮดกรอส จูเนียร์ในตอนที่ 15 แต่พ่ายแพ้จนบาดเจ็บสาหัสจึงเกิดความแค้นเข้าไปสู้กับเฮดกรอส จูเนียร์และเมทัลเดอร์ร่วมกับนักรบคนอื่นในกองทัพแต่ก็ถูกสังหารในตอนนี้เอง
  • นักสู้ระดับล่าง เฮดกรอส (軽闘士ヘドグロス)
สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนกบผู้มียศต่ำที่สุดในกองทัพมอนสเตอร์มักถูกเหยียดหยามจากนักรบอื่นแม้แต่ในกองทัพมอนสเตอร์ของตัวเองเพราะว่าเฮดกรอสได้นำทาสหญิงชื่อ "วิสด้อม" มาเป็นภรรยาและมีความฝันที่จะไต่เต้าขึ้นไปจนถึงตำแหน่งเกราะศักดิ์สิทธิ์เพื่อความสุขของวิสด้อมและได้รับการยอมรับในฐานะของนักสู้ที่แข็งแกร่งจึงมักถูกล้อเลียนและเหยียดหยาม ในตอนที่ 8 ประลองกับบาร็อคซึ่งมียศและฝีมือสูงกว่าจึงพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าสร้างความอับอายให้แก่เกลดริงเป็นอย่างมากจึงถูกสั่งให้ใช้แผนจับตัวประกันอันสกปรกเพื่อชิงตัดหน้าบาร็อคและสร้างผลงานเอาหน้าซะเอง ในตอนที่ 9 ได้รับคำสั่งจากก๊อดเนรอสให้ใช้ความสามารถพิเศษในการพ่นฟองพิษที่ก่อให้เกิดราชนิดพิเศษในวงจรของเมทัลเดอร์ซึ่งมีฤทธิ์หลอนประสาทเพื่อสร้างภาพความฝันแก่เมทัลเดอร์เพื่อให้เมทัลเดอร์ตกอยู่ในภาพความฝันจะได้กำจัดได้ง่ายๆ ก๊อดเนรอสให้สัญญาว่าหากกำจัดเมทัลเดอร์ได้จะเลื่อนตำแหน่งให้เฮดกรอสตามต้องการแต่สุดท้ายก็ล้มเหลวเพราะถูกดาบาโบและบูลเช็คเข้ามาสอดจนเมทัลเดอร์รอดไปได้และเฮดกรอสเองก็ได้รับบาดเจ็บแต่ด้วยความตั้งใจที่จะเอาชนะเมทัลเดอร์ให้ได้เพื่อความสุขของวิสด้อมจึงฝืนเข้าไปสู้กับเมทัลเดอร์อีกครั้งโดยปราศจากความช่วยเหลือใดๆจากจักรวรรดิ์เนรอสแต่คราวนี้เมื่อเมทัลเดอร์ได้สติก็จัดการเฮดกรอสด้วยการเอามือล้วงเข้าปากของเฮดกรอสเพื่อกระชากเอาต่อมพ่นพิษออกมา แล้วปราบเฮดกรอสด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" และ "จีคิ๊ก" ก่อนตายเฮดกรอสเรียกชื่อวิสด้อมออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนร่างจะระเบิดและแหลกสลายกลายเป็นฟองจนไม่เหลือซาก
  • วิสด้อม (ウィズダム)
ทาสหญิงที่เป็นภรรยาของเฮดกรอส ทั้งสองต่างมีความรักให้แก่กันโดยแม้เฮดกรอสจะเป็นไอ้กระจอกไร้ค่าในสายตาของคนในกองทัพเนรอสแต่ก็ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของวิสด้อมโดยพยายามเก็บรวบรวมเงินทองและพยายามจะสร้างผลงานเพื่อเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น ในตอนที่เฮดกรอสได้รับคำสั่งให้ไปสู้กับเมทัลเดอร์ วิสด้อมได้มอบต่างหูข้างนึงของตนให้เฮดกรอสติดตัวไปด้วยในฐานะเครื่องราง แม้เฮดกรอสจะเสียชีวิตในการต่อสู้จนร่างแหลกสลายแต่ก็ไม่ลืมวิสด้อมเลยจนลมหายใจสุดท้าย วิสด้อมที่ตามมาได้เก็บต่างหูข้างนั้นไว้และสาบานจะแก้แค้นให้เฮดกรอสให้ได้ ในตอนที่ 12 วิสด้อมวางแผนจะลอบสังหารเมทัลเดอร์ด้วยร่างต่อสู้ที่มีเล็บแหลมคมแต่ในระหว่างที่สู้อยู่นั้นวิสด้อมก็เจ็บปวดทรมานจนต้องล่าถอยไปโดยทิ้งต่างหูข้างนั้นไว้ ริวเซย์ซึ่งกลับไปที่ฐานได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการสแกนร่างของวิสด้อมก็ได้รู้ว่าวิสด้อมได้ตั้งท้องลูกของเฮดกรอส จากนั้นเมทัลเดอร์ก็ช่วยวิสด้อมจากการถูกตามล่าของการาโด้ในฐานะคนทรยศ ก่อนจะคืนต่างหูข้างนั้นแก่วิสด้อมและปล่อยให้หนีไปเพื่อรักษาชีวิตของเด็กที่จะเกิดมาโดยทิ้งท้ายไว้ว่าเฮดกรอสนั้นน่านับถือและมีเกียรติเพราะสู้เพื่อปกป้องความสุขของวิสด้อมอันเป็นที่รักและลูกที่จะเกิดมาของตนทำให้วิสด้อมตื้นตันใจเป็นอย่างมากเพราะขนาดในกองทัพมอนสเตอร์เองก็ไม่เคยมีใครเห็นค่าของเฮดกรอสเลยซักคนมีแต่เมทัลเดอร์ที่มองเห็นคุณค่าแม้เป็นศัตรูกัน จึงหนีไปและตั้งใจจะเลี้ยงดูลูกที่เกิดมาให้เป็นคนดีเพื่อไม่ให้เสียความตั้งใจของเมทัลเดอร์และเฮดกรอส
  • เฮดกรอสจูเนียร์ (ヘドグロスジュニア)
ลูกชายของเฮดกรอสและวิสด้อมซึ่งเติบโตเป็นหนุ่มหลังจากคลอดได้ไม่นานเพราะสัตว์ประหลาดของกองทัพมอนสเตอร์มีช่วงชีวิตที่สั้นและเติบโตได้รวดเร็ว ปรากฏตัวในตอนที่ 15 โดยเข้าช่วยเหลือจาสและเข้าต่อสู้กับเมทัลเดอร์เพื่อหวังแก้แค้นให้เฮดกรอสผู้เป็นพ่อแม้จะถูกวิสด้อมเข้ามาห้ามปรามแต่จูเนียร์ก็ติดตามกัลดอสและกองทัพหุ่นยนต์ต่อสู้เข้าไปพบกับก๊อดเนรอสโดยขอเข้าเป็นพวกและขอตำแหน่งของพ่อ ในตอนแรกกัลดอสได้รายงานความชอบที่จูเนียร์ช่วยเหลือจาสและเล่นงานเมทัลเดอร์ได้แก่ก๊อดเนรอสและเสนอว่าความสามารถของจูเนียร์นั้นเหมาะสมจะได้ยศนักสู้วีรบุรุษเลยทีเดียวแต่เกลดริงกลับไม่เห็นด้วยว่าลูกของเฮดกรอสจะมีค่าขนาดนั้น ก๊อดเนรอสจึงสั่งให้จูเนียร์แสดงฝีมือโดยประลองกับพวกกองทัพมอนสเตอร์จนบาดเจ็บกันระนาวได้แก่ ซาเค็มโบ ดัมเน็น และ กามาด้อน เพราะจูเนียร์นอกจากจะมีกรงเล็บที่แหลมคมแบบวิสด้อมเป็นอาวุธแล้วยังมีกรงเล็บเหล็กงอกออกมาเพิ่มข้างละสามอันเหมือนอย่างวูลฟเวอรีนแถมยังซัดใส่ศัตรูได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถกลายเป็นเมือกหลบหลีกและคืนร่างได้อย่างเฮดกรอส ในการต่อสู้กับเมทัลเดอร์นั้นเมทัลเดอร์พยายามจะใช้เหตุผลกับจูเนียร์จนเมื่อเห็นแม่ถูกจับเป็นตัวประกันจึงร่วมมือกับเมทัลเดอร์ต่อสู้กับพวกกองทัพมอนสเตอร์จนกำจัดซาเค็มโบไปได้ จากนั้นจูเนียร์จึงออกเดินทางไปกับวิสด้อมโดยตัดขาดจากกองทัพเนรอสและเป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตไปได้หลังตีตัวออกห่างจากจักรวรรดิ์เนรอส
  • ด๊อกเกียแรน (ドグギャラン)
ปรากฏตัวในตอนที่ 29 เป็นสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดจรจัดชื่อ "จอร์จ" แม้จะเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่และค่อนข้างดุแต่จริงๆแล้วเป็นสุนัขที่ใจดีและอ่อนโยนมากแต่ที่จอร์จมีนิสัยก้าวร้าวเป็นเพราะจอร์จเคยถูกเลี้ยงดูโดยเจ้าของที่ไม่เอาใจใส่ ทำให้มามี่และริวเซย์ที่สามารถสื่อสารกันได้เข้าใจดีถึงความลำบาก ทั้งสองให้ความเห็นใจและช่วยเหลือจอร์จโดยอธิบายให้ไมและฮัคโคที่เข้าใจผิดหวังจะไล่ตีจอร์จเข้าใจโดยปล่อยไปโดยไม่ทำร้ายแต่จอร์จก็ถูกพวกเนรอสจับไปดัดแปลงเป็นสัตว์ประหลาดเพื่อแผนการใช้สัตว์เลี้ยงมาดัดแปลงเป็นสัตว์ประหลาดแล้วเข้าโจมตีมนุษย์ของก๊อดเนรอส ด๊อกเกียรันมีหนามแหลมคล้ายสว่านงอกออกมาตามตัวซึ่งสามารถยืดออกใช้เป็นอาวุธได้ อีกทั้งเสียงคำรามของด๊อกเกียรันยังไปกระตุ้นสัญชาตญาณอันดิบเถื่อนของทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าในสวนสัตว์ให้ตื่นขึ้นจนเริ่มอาละวาดทำร้ายผู้คน ก่อนจะบุกเข้าไปในสวนสัตว์หวังปล่อยสัตว์จำนวนมากออกมาให้พวกเนอรสนำไปดัดแปลงเป็นสัตว์ประหลาด กระนั้นจอร์จก็ยังจำไมกับฮัคโคได้จึงมิได้ทำร้ายทั้งสองที่ตามมาแต่กลับสร้างความลำบากในการต่อสู้เพราะเมทัลเดอร์ไม่อยากทำร้ายด๊อกเกียรันแต่ในระหว่างต่อสู้กับเมทัลเดอร์ก็ได้สติคืนมาจากเสียงเห่าของมามี่จึงไม่รับคำสั่งและหันไปเล่นงานเกลดริงแทนและถูกเกลดริงฉีดด้วยโฟมพิษจนเสียชีวิต
  • โกลิกอน (ゴリゴン)
สัตว์ทดลองที่เกิดจากการฝังแคปซูลที่บรรจุสารกลายพันธุ์ไว้ในสมองโดยสารที่ว่านี้จะทำให้สัตว์ทดลองมีขนาดร่างกายที่ใหญ่โตขึ้นและมีนิสัยดุร้าย เป้าหมายของก๊อดเนรอสก็คือใช้โกลิกอนเหล่านี้ออกอาละวาดสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้คนเพื่อให้คนเหล่านั้นร้องหาความช่วยเหลือ จากนั้นจักรวรรดิ์เนรอสก็จะออกหน้าให้ความช่วยเหลือเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อเข้าควบคุมผู้คนในสังคมได้อย่างสะดวกแต่ก็เกิดอุบัติเหตุห้องทดลองที่เก็บร่างของโกลิกอนเกิดการระเบิดขึ้นทำให้โกลิกอน 10 ตัวหลุดออกมาแม้เกลดริงกับกองทัพมอนสเตอร์จะตามจับกลับมาแต่ก็จับกลับมาได้แค่ 7 ตัวส่วนอีกสามตัวได้แก่ โกลิกอน A ซึ่งดูคล้ายจะเป็นตัวเมียที่อ่อนแอ,โกลิกอน B ซึ่งดูเป็นตัวผู้จ่าฝูงที่ดุร้าย และ โกลิกอน C ที่ดูจะเป็นเด็กที่ตัวเล็กที่สุดยังคงหลบหนีไปได้ ก๊อดเนรอสจึงออกคำสั่งให้วอกเกอร์ ทูออกไล่ล่าพร้อมกับกองทัพเกราะยนต์ โกลิกอน A ถูกจับกลับไปได้จากการถูกวอกเกอร์ ทูยิงด้วยปืนยาสลบส่วนโกลิกอน B ที่ติดกับดักตาข่ายของวอกเกอร์ ทูได้รับความช่วยเหลือจากเมทัลเดอร์แต่ก็ถูกการโจมตีทางอากาศของสโตรปและบาเบรี่ระหว่างหลบหนีจนคาดว่าน่าจะเสียชีวิตไป ส่วนโกลิกอน C ที่ดูจะอายุน้อยที่สุดได้บังเอิญพบกับเด็กหญิงที่อาศัยอยู่บนเขากับพ่อเพียงสองคนและได้เป็นเพื่อนกัน พวกริวเซย์ที่ตามมาพบโกลิกอน C กับเด็กหญิงคนนั้นก็พูดจาหว่านล้อมจนสามารถพาโกลิกอน C กลับฐานไปเพื่อวิเคราะห์และจากการสแกนพบว่าหากไม่ผ่าแคปซูลในสมองออกโกลิกอน C จะอาละวาดในเวลาไม่เกิน 5 วัน แต่ระหว่างนั้นฮัคโคกับครอบครัวของเด็กหญิงถูกวอกเกอร์ ทูจับเป็นตัวประกันเพื่อเค้นให้บอกที่อยู่ของโกลิกอน ทำให้เมทัลเดอร์และโกลิกอน C รีบตามไปช่วย หลังจากปราบวอกเกอร์ ทูได้สำเร็จ โกลิกอน C ที่ผ่าเอาแคปซูลชั่วร้ายออกก็ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเด็กน้อยบนเขาอย่างสงบสุข และเป็นอีกหนึ่งผู้รอดชีวิตหลังหลบหนีจากจักรวรรดิ์เนรอส
  • ซอร์ก (ゾルグ)
สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนแมลง ยศวิญญาณร้ายปรากฏตัวในเนื้อหาแบคกราวน์ของพี่น้องแท็กส มีความสามารถในการสอดแนม

กองทัพเกราะยนต์[แก้]

กองทัพเกราะยนต์ (機甲軍団) เป็นกองทัพหุ่นยนต์รบอีกรูปแบบนึงโดยสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะของอาวุธสงครามที่มีแขนขาโดยมีร่างภายในเป็นแบบแอนดรอยด์และสวมเกราะเฟรมติดอาวุธทับที่ด้านนอก มักออกปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนกองทัพอื่นๆเป็นหลัก แม้มีสมาชิกน้อยแบบทว่าแต่ละแบบสามารถผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมากจึงมีตัวตายตัวแทนมาเสริมแทนที่เสมอ มีสมาชิกตามลำดับยศดังนี้

  • เกราะศักดิ์สิทธิ์ ดรังก้า (凱聖ドランガー)
ผู้บัญชาการของกองทัพเกราะยนต์ในรูปหุ่นยนต์รบสีแดงและเงินโลหะมีดาบใหญ่เป็นอาวุธที่มือขวาซึ่งสามารถปล่อยแสงไฟฟ้าได้และโล่ห์ติดอาวุธที่มือซ้ายซึ่งยิงกระสุนทำลายออกมาได้ คอยควบคุมการสร้างและทดสอบอาวุธต่างๆของกองทัพเนรอสมีพาหนะ 2 ชนิดคือ "ดาร์คกันแครี่" (ダークガンキャリー) เป็นรถตู้หุ้มเกราะติดตั้งปืนใหญ่ไว้บนหลังคาและ "ไดรกัน" (ドライガン) เป็นรถจี๊ปหุ้มเกราะติดอาวุธปืนใหญ่ซึ่งทั้งสองแบบกองทัพอื่นก็มีใช้เป็นกองตัวเองทุกกองกำลัง ดรังก้าไม่ค่อยได้ออกโรงบัญชาการภาคสนามเองมากนักจนถึงตอนที่ 36 ได้ร่วมมือกับบัลสกี้และกองทัพหุ่นยนต์นักสู้เพื่อคอยสนับสนุนในแผนการใช้โอกิ ชินโงซึ่งเป็นพ่อของไมที่ถูกสะกดจิตและสวมเกราะของทักสกี้เพื่อใช้เป็นมือสังหารเมทัลเดอร์ ระหว่างการต่อสู้ได้ไล่ตามเมทัลเดอร์ที่เสียหายไปจนถึงฐานทัพลับและระดมยิงใส่ฐานทัพลับของเมทัลเดอร์อย่างหนักหน่วงและก็เป็นเกราะศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้เองที่เป็นผู้หยิบยื่นความพินาศให้แก่ซิลเวอร์คาแคสของเมทัลเดอร์จนสูญเสียฐานทัพและเครื่องมือในการซ่อมแซมไปจนหมด ในตอนที่ 37 ก็ร่วมกันกับก๊อดเนรอสในคราบของคูลกินซุ่มโจมตีเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ที่หนีออกมาจากซากของโกสต์แบงค์ ดรังก้าเข้าต่อสู้กับเมทัลเดอร์อย่างดุเดือดและถูกกำจัดด้วย "เลเซอร์ อาร์ม" แต่เมทัลเดอร์ต้องใช้ถึง 2 ครั้งในการโค่นดรังก้าเลยทีเดียว
  • ขุนพลหาญกล้า เมกาดรอน (豪将メガドロン)
หุ่นยนต์รบในรูปแบบของปืนต่อสู้อากาศยานที่มีปืนใหญ่สองกระบอกที่ยิงได้อย่างต่อเนื่องและสามารถยิงกระสุนจากปลายนิ้วทั้งสิบได้ด้วย มักปรากฏตัวในการโจมตีสนับสนุนแก่นักรบของกองทัพอื่นในหลายๆโอกาส ในตอนที่ 23 เป็นไม้สุดท้ายของกองทัพเกราะยนต์โดยเข้าไปรับช่วงต่อจากอากุมิสที่ถูกครอสรันเดอร์ยิงจนร่วงจากกลางอากาศและเรียกสโตรปหมายเลข 2 มาช่วยพาบินขึ้นหน้าผาในด่านสุดท้ายแต่ก็ไม่วายถูกครอสรันเดอร์ซุ่มยิงจนร่วงไปอีกจนได้ ถูกทำลายพร้อมบูลเช็คในตอนที่ 37 ด้วยการโจมตีจากปืนใหญ่ของเกทที่พวกเมทัลเดอร์ใช้หนีออกจากโกสต์แบงค์
  • วิญญาณร้าย อากุมิส (暴魂アグミス)
หุ่นยนต์รบรูปแบบตอร์ปิโดมีแขนขา มีปืนฉมวกเป็นอาวุธเดินได้เชื่องช้าเพราะเป็นหุ่นยนต์สำหรับปฏิบัติการใต้น้ำทว่ามีร่างกายที่แข็งแกร่งและพละกำลังอันมหาศาลขนาดจับมุคิมุคิแมนกับฟูฟูชูยกทุ่มได้พร้อมกันอย่างง่ายดาย ในตอนที่ 4 ได้ทำการระเบิดพลีชีพเพื่อกำจัดเมทัลเดอร์หลังกามาด้อนพลาดท่า หลังจากนั้นก็มีอากุมิสตัวอื่นปรากฏตัวในอีกหลายครั้ง อาทิในภาพยนตร์ตอนพิเศษทำหน้าที่วิเคราะห์ผลการฝึกซ้อมของกองทัพเกราะยนต์ รวมถึงร่วมแข่งแรลลี่ในตอนที่ 23 ด้วยโดยรับไม้ต่อจากบูลเช็คที่ไม่กล้าวิ่งข้ามแพลอยน้ำในด่านที่ 4 จนสามารถผ่านไปได้แต่เนื่องจากอากุมิสวิ่งได้ช้ามากบนบกจึงรั้งท้ายในช่วงสุดท้ายของการแข่ง แม้สโตรปจะเข้ามาช่วยพาบินขึ้นฟ้าแต่ก็ถูกครอสรันเดอร์ซุ่มยิงจนร่วงลงมาทั้งคู่ อากุมิสถูกกำจัดอย่างแท้จริงพร้อมกับดาบาโบด้วยการยิงปืนใหญ่จากเกทของเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ในตอนที่ 37
  • วิญญาณร้าย ดาบาโบ (暴魂ダーバーボ)
หุ่นยนต์รบรูปแบบเครื่องยิงจรวดมิซไซส์ขนาดใหญ่สามารถยิงได้ทีละ 8 ลูกมียศเดียวกับอากุมิส ในตอนที่ 9 เข้าไปสอดในการต่อสู้ของเฮดกรอสโดยระดมยิงถล่มใส่พร้อมกับบูลเชคและเป็นผู้ลงทัณฑ์รัปโซดี้ในตอนที่ 10 ซึ่งล้มเหลวในการกำจัดเมทัลเดอร์ และปรากฏตัวอีกหลายครั้งจนถูกทำลายในตอนที่ 20 โดยถูกเมทัลเดอร์จับทุ่มใส่เด็กส์เตอร์ X1 จนระเบิดไปพร้อมกัน และมีดาบาโบตัวอื่นกลับมาปรากฏตัวในอีกหลายตอนจนถูกกำจัดพร้อมกับอากุมิสด้วยการยิงปืนใหญ่จากเกทของเมทัลเดอร์และท๊อปกันเดอร์ในตอนที่ 37
  • นักสู้วีรบุรุษ บาเบรี่ (雄闘バーベリィ)
หุ่นยนต์รบรูปแบบเฮลิคอปเตอร์ที่บินได้ด้วยใบพัดที่อยู่กลางหลังมีจรวดมิซไซส์ที่ข้อมือเป็นอาวุธ ถูกไซด์แฟนท่อมพุ่งเข้าชนจนเสียหายในตอนที่ 2 แต่ก็ได้รับการซ่อมแซม มีหน้าที่บินลาดตระเวณและสอดแนมรวมถึงโจมตีสนับสนุนนักรบอื่นๆพร้อมกับสโตรป ในตอนที่ 25 มีบาเบรี่ปรากฏตัวออกมา 3 ตัวราวกับฝูงบินเช่นเดียวกับสโตรปในการไล่ล่าคนทรยศ สุดท้ายบาเบรี่ถูกยิงจนระเบิดกลางอากาศโดยท๊อปกันเดอร์ในตอนที่ 37
  • นักสู้ระเบิด สโตรป (激闘士ストローブ)
หุ่นยนต์รบรูปแบบเครื่องบินขับไล่ที่บินได้ด้วยความเร็วสูงมีปืนเลเซอร์ที่ปีกทั้ง 2 ข้างเป็นอาวุธมักปฏิบัติการร่วมกับบาเบรี่ ในตอนที่ 23 สโตรปคอยสนับสนุนนักรบในกองทัพเกราะยนต์ในการแข่งแรลลี่โดยทำหน้าที่หิ้วพรรคพวกที่ส่วนใหญ่วิ่งได้ช้าและอุ้ยอ้ายกว่านักรบในกองทัพอื่นเพื่อบินขึ้นฟ้าแซงหน้าคู่แข่งโดยปรากฏตัวมาถึง 2 ตัวแต่ก็ถูกครอสรันเดอร์ซุ่มยิงจนร่วงทั้ง 2 ตัว ในตอนที่ 25 ก็มีสโตรป 3 ตัวรวมทีมเป็นฝูงบินร่วมกับบาเบรี่ในการไล่ล่าคนทรยศเช่นกัน สโตรปถูกยิงจนระเบิดกลางอากาศโดยท๊อปกันเดอร์ในตอนที่ 37 เช่นเดียวกับบาเบรี่
  • นักสู้โหดเหี้ยม บูลเช็ค (烈闘士ブルチェック)
หุ่นยนต์รบรูปแบบรถถังที่มีปืนใหญ่ติดตั้งอยู่บนหัวและปืนกลที่แขนขวาเป็นอาวุธ ออกปฏิบัติการโจมตีสนับสนุนหลายต่อหลายครั้งเช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่นในกองทัพเกราะยนต์ ในตอนที่ 20 บังเอิญพบกล่องใส่ลูกสุนัขที่ถูกทิ้ง 3 ตัวจึงอยากจะเก็บเอาไปเลี้ยงเองแต่เมกาดรอนกลับจะเอาไปใช้เป็นเหยื่อล่อเมทัลเดอร์มากำจัดโดยนำกล่องใส่ลูกสุนัขไปวางในดงกับระเบิดและโจมตีซ้ำด้วยอาวุธสงครามรุ่นใหม่ "เด็กส์เตอร์ X1" ที่เตรียมนำออกขายให้กับผู้หวังก่อความไม่สงบระหว่างตะวันออกกลางกับอเมริกาใต้ แม้ว่าบูลเช็คจะพยายามทัดทานก็ไม่มีใครฟังเพราะมียศต่ำสุดในกองทัพเกราะยนต์ เมื่อแผนการเริ่มขึ้นก็มีลูกสุนัขตัวนึงวิ่งออกมาจากล่องแล้ววิ่งเข้าไปในดงกับระเบิด บูลเช็คจึงบุกเข้าช่วยจนตัวเองถูกกับระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนักแต่ก็สามารถปกป้องลูกสุนัขตัวนั้นเอาไว้ได้และส่งมอบให้เมทัลเดอร์นำไปดูแลต่อ ไม่ชัดเจนว่าบูลเช็คตัวนั้นถูกทำลายหรือไม่แต่ในตอนถัดๆมาก็มีบูลเช็คปรากฏตัวออกมาอีกหลายครั้ง การแข่งแรลลี่ในตอนที่ 23 บูลเช็คเป็นไม้แรกของกองทัพเกราะยนต์แต่เนื่องจากวิ่งได้ช้าและอุ้ยอ้ายจึงถูกทิ้งห่างตั้งแต่ออกตัวแต่กระนั้นก็สามารถฝ่าด่านที่ 2 ไปได้โดยวิ่งชนทะลุกำแพงเอาดื้อๆ บูลเช็คกลับมาขึ้นนำได้ด้วยความช่วยเหลือของสโตรปโดยถูกหิ้วบินขึ้นฟ้าจนผ่านกับระเบิดในด่านที่ 3 ได้ง่ายกว่ากองทัพอื่นจนขึ้นนำแต่พอมาถึงด่านที่ 4 ซึ่งเป็นด่านแพลอยน้ำที่ต้องรีบวิ่งข้ามไปแต่บูลเช็คดันกลัวน้ำเลยได้แต่ยืนเซ่อให้กองทัพอื่นวิ่งแซงไปหมดจนต้องส่งไม้ต่อให้กับอากุมิสที่ว่ายน้ำได้แทน จนในตอนที่ 37 ก็ถูกทำลายพร้อมเมกาดรอน
  • กรูโซ่ (グルーゾー)
หุ่นยนต์รบรูปแบบทุ่นระเบิดใต้น้ำอดีตนักรบยศนักสู้โหดเหี้ยม ปรากฏตัวในเนื้อหาแบ็คกราวน์ของพี่น้องแท็กส์

อ้างอิง[แก้]