มาสค์ไรเดอร์ J

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก คาเมนไรเดอร์ J)
มาสค์ไรเดอร์ J
กำกับKeita Amemiya
เขียนบทShozo Uehara
อำนวยการสร้างIshimori Productions
Toei
Bandai
นักแสดงนำYūta Mochizuki
Yuka Nomura
Kyoji Kamui
ดนตรีประกอบEiji Kawamura
ผู้จัดจำหน่ายToei Co. Ltd
วันฉาย4 มิถุนายน ค.ศ. 1994
ความยาว47 minutes
ภาษาJapanese

มาสค์ไรเดอร์ J (ญี่ปุ่น: 仮面ライダーJ, Kamen Raidā Jei) เป็นภาพยนตร์ของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ซีรีส์ ลำดับที่ 13

เข้าฉายเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1994 ซึ่งภาพยนตร์นี้ถูกจัดฉายในโปรแกรมหนังโตเอะซูเปอร์ฮีโร่แฟร์ ควบกัน ขบวนการนินจา คาคุเรนเจอร์ เดอะมูวี่ และ บลูสวาท

ประวัติ[แก้]

มาสค์ไรเดอร์ J เป็นผลงานชุด มาสค์ไรเดอร์ เรื่องสุดท้ายที่อำนวยการสร้างและผลิตโดย อาจารย์อิชิโนโมริ โชทาโร่ และเป็นภาพยนตร์ที่ถูกจัดฉายในโปรแกรมหนัง โตเอะซูเปอร์ฮีโร่แฟร์ เช่นเดียวกับมาสค์ไรเดอร์ ZO นอกจากนี้ ยังเป็นผลงานสุดท้ายที่ อาจารย์อิชิโนโมริ เป็นผู้ควบคุมการถ่ายทำและบันทึกเสียงด้วยตัวเอง

ทางด้านแนวคิดของมาสค์ไรเดอร์เจ ได้นำคอนเซปต์ ฮีโร่ร่างยักษ์ เข้ามามีส่วนร่วมในหนัง เป็นผลงานชิ้นแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี ค.ศ. 1993 ได้ใช้แนวคิดที่ทำให้ มาสค์ไรเดอร์ หมายเลข 1 สามารถขยายร่างได้ เนื่องมาจากภาพยนตร์ อุลตร้าแมน VS มาสค์ไรเดอร์ ที่สร้างร่วมกับ บริษัท สึบุรายะโปรดักชั่นส์

ทั้งนี้ มาสค์ไรเดอร์ J, มาสค์ไรเดอร์ ZO และ ชิน คาเมนไรเดอร์ โปรล็อก เป็นผลงานที่อยู่ในรัชศกเฮย์เซย์เหมือนกัน แต่ไม่ได้ถูกนับ เนื่องจาก มาสค์ไรเดอร์คูกะ ได้ถูกนับเป็นมาสค์ไรเดอร์คนแรกของยุคเฮย์เซย์ไปแล้ว

เนื้อเรื่อง[แก้]

จักรวรรดิ์ฟ็อก อสูรร้ายจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ซึ่งเคยมาเยือนโลกมนุษย์แล้วครั้งหนึ่งในยุคไดโนเสาร์ โดยการมาของมันเป็นสาเหตุการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ กระทั่งมันได้กลับมาอีกครั้งในโลกยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุที่มนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อมโลกจนเกิดมลพิษ ทำให้บรรยากาศเหมาะสมกับพวกมัน หมายที่จะทำลายล้างโลก เซงาวะ โคจิ ช่างถ่ายภาพอิสระ ได้พบกับ คานะ เด็กสาวที่เจอกันโดยบังเอิญในป่า คานะได้ถูกขุนพลแห่งฟ็อกทั้ง 3 ตามจับตัว เพื่อนำไปเป็นแม่พันธุ์ ในการขยายพันธุ์เหล่าอสูรแห่งฟ็อก โคจิได้เข้าต่อสู้กับเหล่าปิศาจ แต่กลับพลาดท่าถูกผลักตกสู่เหวลึก คานะจังจึงโดนจับไปในที่สุด ทว่าโคจิยังรอดชีวิต โดยมีเหล่ามนุษย์ใต้พิภพช่วยเขาไว้ และได้ทำการผ่าตัดร่างกายของโคจิให้กลายเป็น มาสค์ไรเดอร์ เจ นักรบผู้มีพลังแห่งธรรมชาติจากผืนโลก โคจิในร่าง เจ ได้บุกไปช่วยคานะถึงในร่างขนาดยักษ์ของฟ็อกมาเธอร์ และได้ต่อสู้กับทูตทั้ง 3 จนสามารถล้มเหล่าทูตได้ทั้งหมด และต้องเผชิญหน้ากับ ฟ็อกซ์มาเธอร์ ยานแม่ของพวกฟ็อกซ์ ที่มีความสูงถึง 80 เมตร เจจึงต้องใช้พลัง เจพาวเวอร์ โดยเป็นการเรียกพลังจากโลก มารวมกันที่ตนเอง จนสามารถขยายร่างกายให้สูงถึง 40 เมตร เพื่อเข้าต่อสู้กับฟ็อกมาเธอร์ และทำลายมันลงได้ในที่สุด

ตัวละคร[แก้]

เซงาวะ โคจิ (瀬川 耕司) / คาเมนไรเดอร์ J (仮面ライダーJ)
ตัวเอกของเรื่อง ชายหนุ่มวัย 22 ปี เป็นช่างภาพอิสระที่กำลังมองหามุมสวย ๆ ในป่า กลับต้องตกกระไดพลอยโจน เข้าไปพัวพันในเหตุการณ์รุกรานของอาณาจักรฟ็อก หลังจากพบกับเด็กหญิง คานะ ในป่า เขาช่วยคานะ และเข้าต่อสู้กับเหล่าอสูรแห่งฟ็อกโดยไม่ลังเล ทำให้ถูกทำร้ายจนพลัดตกลงไปในเหวลึก แต่ก็ได้กลุ่มมนุษย์ใต้พิภพช่วยชีวิตไว้อย่างหวุดหวิด โดยพวกเขาได้ทำการผ่าตัดรักษาร่างกายโคจิ ให้กลายเป็น มาสค์ไรเดอร์ เจ สุดยอดนักรบผู้รับพลังจากผืนโลก ซึ่งเป็นความหวังเดียวที่จะต่อกรกับอาณาจักรฟ็อก และช่วยโลกใบนี้ไว้ได้
คิมุระ คานะ (木村 加那)
เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ที่โคจิบังเอิญไปพบในป่า เธอตกเป็นเป้าหมายของพวกอาณาจักรฟ็อก ที่ต้องการจำจับตัวเธอไปเป็นแม่พันธุ์ในการขยายจำนวนเหล่าอสูรแห่งฟ็อก
มนุษย์ใต้พิภพ (地空人)
มีอีกชื่อเรียกคือ ชิคูจิน พวกเขาคือเหล่ามนุษย์ยุคโบราณที่วิวัฒนาการจนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และย้ายมาอาศัยอยู่ใต้ดิน แม้จะมีอายุยืนยาวมาก แต่พวกเขากลับเคลื่อนย้ายร่างกายอย่างอิสระไม่ได้ พวกเขาได้ใช้วิทยาการล้ำยุค ในการผ่าตัดดัดแปลงร่างกายให้กับโคจิ เป็นสุดยอดนักรบแห่งผืนโลก มาสค์ไรเดอร์ เจ เพื่อต่อกรกับอาณาจักรฟ็อกและปกป้องโลกจากการถูกทำลาย
เบรี่ (ベリー)
บริวารของชาวใต้พิภพ ลักษณะเป็นตั๊กแตนขนาดใหญ่ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ และยังเป็นคู่หูที่พึ่งพาได้ของเจ

ฟ็อก[แก้]

ฟ็อกมาเธอร์ (機械獣母艦フォッグ・マザー)
จักรกลโบราณมีชีวิตขนาดยักษ์ เป็นยานแม่ของอาณาจักรฟ็อก มันเคยมาเยือนโลกในอดีต ซึ่งมันเป็นต้นเหตุการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ด้วย
มนุษย์งูเห่า กาไร (コブラ男ガライ)
ผู้นำของกองทัพฟ็อก มีศักดิ์เป็นเจ้าชาย อาวุธหลักคือดาบลำแสง
มนุษย์ผึ้ง ซู (ハチ女ズー)
ขุนพลหญิง 1 ในผู้นำของกองทัพฟ็อก มีหน้าที่คือ กำจัดจิตวิญญาณของโลกมนุษย์ซึ่งก็คือ เบรี หรือตั๊กแตนสหายของ มาสค์ไรเดอร์ เจ
มนุษย์กิ้งก่า อากิโตะ (トカゲ男アギト)
ขุนพลอีก 1 คนในกลุ่มผู้นำ นอกจากไต่บนพื้นที่แนวตั้งได้ ยังมีความสามารถงอกชิ้นส่วนใหม่ได้เช่นกัน เป็นคนแรกที่ได้ปะทะกับเจ

มาสค์ไรเดอร์ J[แก้]

  • ส่วนสูง : 194 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก : 84 กิโลกรัม
  • พลังกระโดด : 150 เมตร
ร่างแปลงของเซงาวะ โคจิ หลังได้รับการดัดแปลงร่างกายโดยชิคูจิน ที่รับพลังจากธรรมชาติและพื้นดิน มีพลัง J พาวเวอร์ ทำให้สามารถขยายร่างได้
พลังของ J พาวเวอร์ ในร่างกายของโคจิ จะมีจุดศูนย์รวมพลังงานอยู่ที่ J สปิริต เข็มขัดแปลงร่างที่ปกติจะอยู่ในสภาพหัวเข็มขัด ที่มีผลึกสีแดงฝังอยู่ ท่าไม้ตายคือ J คิก, J พันซ์ ,J ช็อป ,J เอลโบ นอกจากนี้สามารถใช้ท่า J ไซน์ ซึ่งเป็นการทำสัญลักษณ์รูป J ด้วยนิ้วมือ เพื่อรวบรวมพลัง J พาวเวอร์ สำหรับเตรียมใช้ท่าไม้ตายเผด็จศึก
นอกจากมีพละกำลังมหาศาลแล้ว ยังสามารถฟื้นฟูความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้จากฟื้นตัวระหว่างการต่อสู้กับอากิโตะ
ลำดับนักรบมาสค์ไรเดอร์ J เดิมได้ถูกจัดเป็นนักสู้มนุษย์ดัดแปลงคนที่ 14 (14人目の改造戦士) โดยที่ BLACK และ BLACK RX นับเป็นคนเดียวกัน, มาสค์ไรเดอร์ชิน (คนที่ 12), ZO (คนที่ 13) แต่ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงโดย BLACK เป็นคนที่ 11, BLACK RX เป็นคนที่ 12, ชินเป็นคนที่ 13, ZO เป็นหมายเลข 14, J เป็นหมายเลข 15 ซึ่งข้อมูลที่อัปเดตมาจาก เน็ตมูวี่ มาสค์ไรเดอร์ดีเคด ออลไรเดอร์ ซูเปอร์สปินออฟ
ชื่อของ J มาจากคำว่า จัมโบ้ (Jumbo) แต่ว่ายังมีชื่อหลายชื่อทั้ง จัมโบ้, เจแปน, จัดจ์ ซึ่ง อิชิโนโมริ ได้กล่าวในหนังสือมาสค์ไรเดอร์ J โจเซ็นชูว่า เป็นนักรบที่พิพากษาความชั่วร้าย แต่ว่าในภาคนิยายที่ อุเอฮาระ โชโซ ประพันธ์ได้กล่าวว่าชื่อของ J มาจาก จูปิเตอร์ (Jupiter)
จัมโบ้ฟอร์เมชัน (ジャンボフォーメーション)
  • ส่วนสูง : 40 เมตร
  • น้ำหนัก : 736 ตัน
มาสค์ไรเดอร์ J ที่รับพลัง เจพาวเวอร์ จากผืนโลกโดยตรงจนสามารถขยายร่างยักษ์ได้ ซึ่ง J ได้ใช้ร่างยักษ์ในการต่อสู้กับฟ็อกมาเธอร์ในศึกสุดท้าย ท่าไรเดอร์คิกก็จะมีพลังรุนแรงขึ้นไปด้วยเช่นกัน
เจครอสเซอร์ (ジェイクロッサー)
มอเตอร์ไซค์ประจำตัวของ เจ ปกติจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดา แต่จะแปรสภาพเป็น เจครอสเซอร์ ไปพร้อม ๆ กับการแปลงร่างของโคจิ ด้วยพลังของ เจพาวเวอร์
สามารถวิ่งได้ในทุกสภาพแวดล้อม
  • ความยาว : 2100 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 900 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1310 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 135 กิโลกรัม
  • กระโดดได้สูง : 90 เมตร
  • ความเร็วสูงสุด : 1330 กิโลเมตร

แหล่งข้อมูลอื่นๆ[แก้]